รอยเตอร์ - อิทธิพลของไต้ฝุ่นไห่หม่าซึ่งเป็นพายุที่มีความรุนแรงที่สุดที่พัดเข้าสู่ฟิลิปปินส์ในรอบ 3 ปี ทำให้เรือกสวนนาข้าวจมอยู่ใต้บาดาล และพบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 12 ราย ขณะที่พายุเตรียมซัดเข้าถล่มเกาะฮ่องกงวันนี้ (21 ต.ค.)
เจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์อยู่ระหว่างประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นกับระบบสาธารณูปโภคและพืชผลทางการเกษตร แต่ยืนยันว่าพื้นที่การเกษตรหลายพันเฮกตาร์ในจังหวัดทางตอนเหนือถูกลมพายุซัดราบเป็นหน้ากลอง
ริคาร์โด จาลัด ประธานสภาจัดการและบรรเทาความเสี่ยงภัยพิบัติแห่งฟิลิปปินส์ ระบุว่า ผู้เสียชีวิต 8 รายเป็นประชาชนในภูมิภาคคอร์ดิลเลรา (Cordillera) โดยอ้างจากรายงานของเจ้าหน้าที่ประจำจังหวัด
เฉพาะที่จังหวัดคากายัน (Cagayan) ซึ่งเป็นจุดที่ไต้ฝุ่นไห่หม่าพัดเข้าสู่แผ่นดินเมื่อค่ำวันพุธ (19) ด้วยความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางถึง 225 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักได้ทำลายนาข้าวไปประมาณ 50,000-60,000 เฮกตาร์
“มันแทบไม่ต่างจากไต้ฝุ่นโยลันดาเลย” มานูเอล มัมบา ผู้ว่าการจังหวัดคากายัน ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุแห่งหนึ่ง โดยอ้างถึงซูเปอร์ไต้ฝุ่นเมื่อปี 2013 ที่นานาชาติรู้จักกันในชื่อ “ไห่เยี่ยน” ซึ่งสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจมูลค่านับพันๆ ล้านดอลลาร์ และทำให้มีผู้เสียชีวิตในฟิลิปปินส์ไม่ต่ำกว่า 6,000 คน
ทางการฮ่องกงได้สั่งปิดหน่วยงานของรัฐหลายแห่ง ยกเว้นเพียงบริการสำคัญๆ เพื่อเตรียมรับมือไต้ฝุ่นไห่หม่าที่จะซัดถล่มเกาะศูนย์กลางการเงินในวันนี้ (21)
“จากเส้นทางพายุในปัจจุบัน คาดว่าไต้ฝุ่นไห่หม่าจะเคลื่อนตัวเข้าใกล้เกาะฮ่องกงมากที่สุดในเวลาเที่ยง โดยอยู่ห่างออกไปทางตะวันออกประมาณ 100 กิโลเมตร” ศูนย์สังเกตการณ์สภาพอากาศฮ่องกง แถลงบนเว็บไซต์
อันตรายจากพายุลูกนี้ยังส่งผลให้รถไฟและเที่ยวบินทั้งขาเข้าและออกจากเกาะฮ่องกงถูกระงับไว้ชั่วคราว