เอเอฟพี - ซูเปอร์ไต้ฝุ่น “ไหหม่า” ซึ่งเป็นหนึ่งในพายุรุนแรงที่สุดที่ซัดกระหน่ำฟิลิปปินส์ พัดทำลายอาคารบ้านเรือนและโรงเรียนทางตอนเหนือของประเทศเสียหายหลายแห่งในวันนี้ (20 ต.ค.) แต่ล่าสุดยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
ไต้ฝุ่นลูกนี้พัดขึ้นฝั่งที่จังหวัดคากายัน (Cagayan) ทางตอนเหนือของฟิลิปปินส์ตั้งแต่ช่วงกลางดึกของวันพุธ (19) ด้วยความเร็วลมเกือบเทียบเท่า “ซูเปอร์ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน” เมื่อปี 2013 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตไปมากกว่า 7,350 คน
พายุลูกนี้ได้เคลื่อนตัวผ่านเขตภูเขาและพื้นที่การเกษตรทางตอนเหนือของเกาะลูซอนตลอดค่ำคืนที่ผ่านมา ซึ่งสภาพความเสียหายก็ได้ปรากฏให้เห็นในช่วงเช้าวันนี้ (20)
“นาข้าวและไร่ข้าวโพดถูกพายุซัดกระหน่ำราบเป็นหน้ากลอง” วิลลามอร์ วิซานา อาจารย์มหาวิทยาลัยในจังหวัดอิลากัน (Ilagan) เมืองใหญ่ที่มีประชากรราว 130,000 คน ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวเอเอฟพีทางโทรศัพท์
“บ้านเรือนพังเสียหายหลายหลัง ผมเห็นต้นไม้ใหญ่ล้มลงมาทับอาคารโรงเรียน... ดูราวกับว่าบ้านของเราถูกขุดรากถอนโคน”
ไต้ฝุ่นไหหม่า หรือที่ชาวฟิลิปปินส์เรียกว่า "ลาวิน" เคลื่อนตัวเข้าสู่เมืองชายฝั่งแปซิฟิกด้วยความเร็วลม 225 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และสูงสุดที่ 315 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก่อนจะอ่อนกำลังลงเมื่อปะทะกับเทือกเขาขนาดใหญ่ และล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (20) พายุได้เคลื่อนตัวออกจากชายฝั่งตะวันตกของเกาะลูซอน มุ่งหน้าออกสู่ทะเลจีนใต้
เจฟเฟอร์สัน โซเรียโน นายกเทศมนตรีเมืองตูกูเอกาเรา (Tuguegarao) เมืองเอกของจังหวัดคากายัน ซึ่งเป็นจุดที่ไต้ฝุ่นไหหม่าพัดเข้าสู่แผ่นดิน รายงานสภาพความเสียหายของอาคารโรงเรียนและยิมเนเซียมที่ประชาชนใช้เป็นศูนย์พักพิงชั่วคราว
“ชาวบ้านร้องขอความช่วยเหลือ เพราะหลังคาอาคารถูกพายุพัดปลิว แต่ปัญหาก็คือ เจ้าหน้าที่กู้ภัยของเรายังไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่ได้” โซเรียโนให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุ DZMM เมื่อก่อนรุ่งสาง ซึ่งเป็นเวลาที่พายุยังคงพัดกระหน่ำ
ประธานาธิบดี โรดริโก ดูเตอร์เต ซึ่งอยู่ระหว่างเยือนจีนอย่างเป็นทางการ ได้เปิดแถลงข่าวที่กรุงปักกิ่งวานนี้ (19) โดยสั่งให้ทุกหน่วยงานเตรียมมาตรการป้องกันและรับมือความเสียหายจากไต้ฝุ่นไหหม่า และสั่งอพยพประชาชนหลายหมื่นคนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย
“เราได้แต่ภาวนา ขออย่าให้เกิดความเสียหายรุนแรงอย่างครั้งที่ผ่านๆ มา ซึ่งนำความทุกข์ทรมานแสนสาหัสมาสู่ประชาชน” ดูเตอร์เตกล่าว
“แต่เรามีความพร้อม และได้เตรียมแผนรับมือทุกอย่างแล้ว”
สำนักงานจัดการความเสี่ยงภัยพิบัติแห่งฟิลิปปินส์เตือนวานนี้ (19) ว่า ประชากรราว 10 ล้านคนทางภาคเหนือของเกาะลูซอนอยู่ในข่ายเสี่ยงภัยไต้ฝุ่นไหหม่า
หมู่เกาะฟิลิปปินส์มักเป็นผืนแผ่นดินแห่งแรกที่ต้องเผชิญกับลมพายุซึ่งก่อตัวขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิก แต่ละปีจะมีพายุพัดเข้าสู่ฟิลิปปินส์ไม่ต่ำกว่า 20 ลูก และส่วนใหญ่มีอานุภาพรุนแรง
ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนซึ่งเป็นพายุที่มีความรุนแรงขณะขึ้นฝั่งมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ได้ซัดถล่มหมู่เกาะตอนกลางของฟิลิปปินส์จนราบเป็นหน้ากลอง เมื่อวันที่ 8 พ.ย. ปี 2013
กรุงมะนิลาซึ่งมีประชากรราว 12 ล้านคนอยู่ห่างจากจุดที่ไต้ฝุ่นไหหม่าพัดเข้าสู่แผ่นดินลงมาทางใต้เพียง 350 กิโลเมตร แต่ก็ไม่ได้รับผลกระทบรุนแรง โดยตลอดค่ำคืนที่ผ่านมามีเพียงกระแสลมปานกลาง และฝนตกเล็กน้อยเท่านั้น
ไหหม่าถือเป็นพายุไต้ฝุ่นลูกที่สองที่ซัดหมู่เกาะฟิลิปปินส์ในรอบสัปดาห์ หลังจากที่ไต้ฝุ่นสาริกา (Sarika) ได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 ราย และสูญหายอีก 3 คน เมื่อวันอาทิตย์ (16)