นายทุนฝั่งรีพับลิกันกลุ้มหนัก ขยะแขยง“ทรัมป์”จนอาจถึงขั้นโหวตให้คู่แข่ง

รอยเตอร์ – นักลงทุนอเมริกันระดับมหาเศรษฐี ที่ฝักใฝ่การเมืองแนวอนุรักษ์นิยมแต่เกลียดชัง โดนัลด์ ทรัมป์ กำลังชั่งใจอย่างหนักในศึกชิงทำเนียบขาว ระหว่างโฟกัสแค่การเลือกตั้งสมาชิกรัฐภาแต่ไม่ลงคะแนนเลือกทรัมป์ , สนับสนุนผู้สมัครอิสระ , หรืออาจถึงขั้นกัดฟันลงคะแนนให้ "ฮิลลารี คลินตัน" ที่เลวร้ายน้อยกว่า

ขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นตอกย้ำว่า คลินตันยังคงนำทรัมป์ต่อเนื่อง ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์บางคนที่ปกติแล้วบริจาคเงินให้ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน เริ่มเห็นว่าการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาเป็นความหวังที่ดีที่สุด

สแตนลีย์ ดรักเคนมิลเลอร์ หนึ่งในผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่มีผลงานดีที่สุดตลอดกาล บอกกับรอยเตอร์ว่า เพิ่งบริจาคเงินให้ผู้สมัครเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาของรีพับลิกันเพื่อสร้าง “ไฟวอลล์” ต่อต้านนโยบายเศรษฐกิจของคลินตัน เช่นแนวทางที่รัฐบาลจะเข้าควบคุมระบบสุขอนามัยมากขึ้น รวมถึงสิ่งที่เขาเรียกว่า “อภิมหามาตรการขัดขวาง” การลงทุน

ดรักเคนมิลเลอร์ที่เป็นนักลงทุนรายย่อยเต็มตัวนับตั้งแต่ปิดบริษัทกองทุนเฮดจ์ฟันด์ของตัวเองในปี 2010 บอกว่า ทรัมป์เอาแน่เอานอนไม่ได้จึงไม่เหมาะจะเป็นแคนดิเดต พร้อมสำทับว่า อาจไปกาบัตรเลือกเฉพาะสมาชิกสภานิติบัญญัติ แต่ไม่ใช้สิทธิ์เลือกประธานาธิบดี

เอกสารข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะ ระบุว่า ดรักเคนมิลเลอร์บริจาคเงินให้วุฒิสมาชิก มาร์โค รูบิโอ จากฟลอริดาเมื่อเดือนสิงหาคม กับคณะกรรมการสภานิติบัญญัติรีพับลิกันแห่งชาติในเดือนมีนาคม

เขาไม่ยอมรับ แกรี จอห์นสัน ผู้สมัครอิสระแนวเสรีนิยมที่ลงเลือกตั้งประธานาธิบดี เนื่องจากเห็นว่า "ตกยุค” หลังจากจอห์นสันพลาดด้านกิจการต่างประเทศสำคัญหลายครั้ง ซึ่งรวมถึงการไม่สามารถระบุชื่อผู้นำต่างชาติที่ตนเองชื่นชมได้

อย่างไรก็ตาม ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์บางคนที่สนับสนุนรีพับลิกัน มีแผนลงคะแนนให้จอห์นสันที่มีคะแนนนิยมในโพลล์เป็นเลขหลักเดียว

ในจำนวนนี้รวมถึง จูเลียน โรเบิร์ตสัน ผู้ก่อตั้ง ไทเกอร์ แมเนจเมนต์ ที่ก่อนหน้านี้ได้สนับสนุน เจบ บุช และจอห์น เคซิก โดยระบุว่า ผู้จัดการกองทุนหลายคนบอกจะเลือกจอห์นสัน หรือไม่เลือกใครเลย เพราะไม่อยากรับผิดชอบถ้าคลินตันชนะ

ผู้จัดการกองทุนคนหนึ่งที่ไม่ประสงค์เปิดเผยตัวตนและความคิดเห็นทางการเมืองเผยว่า จะเลือกคลินตันเพราะเชื่อว่า เลวร้ายน้อยกว่าทรัมป์ หรือไม่ก็เชื่อว่า การเลือกผู้สมัครอิสระอาจกลายเป็นการส่งเสริมให้ทรัมป์เข้าสู่ทำเนียบขาวทางอ้อม

ขณะที่นักลงทุนสายอนุรักษ์นิยมอื่นๆ หันไปทุ่มเทความสนใจกับการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาแทนประธานาธิบดี ซึ่งรวมถึง พอล ซิงเกอร์ จากเอลเลียต แมเนจเมนต์ ที่บริจาคเงินให้คณะกรรมการวุฒิสภารีพับลิกันแห่งชาติ (เอ็นอาร์เอสซี) และทูเก็ตเตอร์ โฮลดิ้ง อาวร์ มาจอริตี้ แพ็ค ที่เมื่อไม่นานมานี้อัดฉีดเงินให้วุฒิสมาชิกสำคัญ 2 คนของรีพับลิกัน ได้แก่ จอห์น แม็กเคน จากแอริโซนา และริชาร์ด เบอร์ จากนอร์ธแคโรไลนา

แน่นอนว่าทรัมป์ยังคงเป็นขวัญใจผู้ส่งเสริมอุตสาหกรรมกองทุนเฮดจ์ฟันด์หลายคน เช่น โรเบิร์ต เมอร์เซอร์ จากเรอแนสซองซ์ เทคโนโลยีส์ และจอห์น พอลสัน จากพอลสัน แอนด์ โค

ขณะเดียวกัน นักลงทุนอีกกลุ่มเปลี่ยนใจไปสนับสนุนผู้สมัครจากเดโมแครต อาทิ โบแอซ ไวน์สไตน์ จากซาบา แคปิตอล แมเนจเมนต์ ที่เมื่อเร็วๆ นี้เพิ่งบริจาคเงินให้คลินตัน หลังจากอัดฉีดแคนดิเดตจากทั้งสองพรรคใหญ่มาหลายปี รวมทั้งเซ็ธ คลาแมน มหาเศรษฐีจากโบโพสต์ กรุ๊ป ที่ประกาศเมื่อเดือนสิงหาคมว่า ทรัมป์ขาดคุณสมบัติในการรับตำแหน่งสูงสุดของประเทศโดยสิ้นเชิง

กระแสต่อต้านทรัมป์ชัดเจนมากขึ้นหลังจากผู้หญิงหลายคนออกมาแฉว่า ถูกทรัมป์ลวนลาม รวมทั้งการเผยแพร่คลิปที่บันทึกไว้ตั้งแต่ปี 2005 ที่อดีตพิธีกรเรียลลิตี้โชว์ผู้นี้อวดอ้างว่า การเป็นคนที่มีชื่อเสียงช่วยให้ลูบคลำสาวได้ตามใจชอบ แม้เจ้าตัวยืนกรานว่า ไม่เคยล่วงเกินผู้หญิงและคำพูดเหล่านั้นเป็นเพียงการคุยเล่นในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าก็ตาม

ผู้คร่ำหวอดในวงการเฮดจ์ฟันด์คนหนึ่งที่สนับสนุนรีพับลิกันมาตลอดบอกว่า เพื่อนร่วมวงการของตนมีความขยะแขยงในตัวทรัมป์อย่างรุนแรงมาก จนกระทั่งรู้สึกว่าจำเป็นต้องเลือกคลินตันเพียงเพื่อป้องกันไม่ให้ทรัมป์ชนะ เพราะอย่างน้อยคลินตันก็คาดเดาได้ง่ายกว่า