เอเอฟพี – เมื่อวานนี้(12 ต.ค)ศรีลังกาออกแถลงการณ์ยืนยัน ยกเลิกคำสั่งห้ามไม่ให้ตำรวจหญิงศรีลังกาได้รับการเลื่อนขั้นสูงไปกว่าระดับผู้กำกับอาวุโส ต่ำกว่า 3 ขั้นของตำแหน่งจเรตำรวจ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปฎิรูปครั้งใหญ่
เอเอฟพีรายงานเมื่อวานนี้(12 ต.ค)ว่า ถึงแม้ว่าศรีลังกาจะเลือกนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศในปี 1960 แต่ทว่าสำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงแล้ว ยังคงถูกคำสั่งห้ามไม่ให้ได้รับการแต่งตั้งสูงไปกว่าระดับระดับผู้กำกับอาวุโส ต่ำกว่า 3 ขั้นของตำแหน่งจเรตำรวจ
โดย สิริ เฮตติจ(Siri Hettige) ประธานคณะกรรมการตำรวจแห่งชาติศรีลังกา NPC กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างของทางสำนักงานจะช่วยแก้ปัญหาความไม่เท่าเทียมภายในที่มีกำลังพลทั้งหมด 80,000 นาย แต่ทว่ามีผู้หญิงอยู่เพียง 11,000 นายเท่านั้น
เฮตติจได้แถลงในกรุงโคลัมโบว่า “ที่ผ่านมาสำหรับการให้บริการที่ด้อยประสิทธิภาพจากเจ้าหน้าที่ตำรวจศรีลังกา บรรดาประชาชนมีความต้องการที่จะเห็นการปฎิรูปอย่างรวดเร็ว” และกล่าวต่อว่า “คนเหล่านั้นต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นภายในชั่วข้ามคืน แต่ทว่าเป็นที่น่าเสียดายว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติศรีลังกาไม่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้ แต่ทางเราได้เสนอแผนการเปลี่ยแปลงตั้งแต่ขั้นพื้นฐานสำหรับตำรวจที่จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นและเป็นมิตรต่อประชาชน”
เอเอฟพีรายงานว่า คณะกรรมการตำรวจแห่งชาติศรีลังกา NPC นั้นถูกจัดตั้งโดยประธานาธิบดีศรีลังกา ไมตรีปาละ สิริเสนา (Maithripala Sirisena) ที่ได้รับการแต่งตั้งในปีที่ผ่านมา และได้ให้สัญญาในการนำความเป็นนิติรัฐกลับคืนสู่ประเทศ รวมไปถึงการต่อต้านการคอร์รัปชันหลังจากสิ้นสุดสงครามทมิฬ-สิงหลที่ยาวนานหลายสิบปี
ซึ่งหน้าที่รับผิดชอบคือทำการปฎิรูประบบการบังคับใช้กฎหมายศรีลังกา โดยนักวิจารณ์ต่างกล่าวว่า ไม่เคยได้รับการเปลี่ยนแปลงนับตั้งแต่ถูกก่อตั้งโดยเจ้าผู้ปกครองอังกฤษในปี 1866
และประธานคณะกรรมการตำรวจแห่งชาติศรีลังกา NPC แถลงต่อว่า เขาหวังว่า จะมีการเห็นเจ้าหน้าที่กำลังพลตำรวจหญิงศรีลังกาได้รับการเลื่อนขั้นสู่ระดับสูงรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งในปัจจุบันนี้ศรีลังกายังไม่เคยมีผู้กำกับอาวุโสเป็นผู้หญิงแม้แต่คนเดียว
นอกจากนี้จะมีการนำระบบใหม่มาใช้เพื่อประเมินการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อสาธารณชนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำหน้าที่
ทั้งนี้เอเอฟพีรายงานว่า ศรีลังกาเพิ่งยกเลิกการใช้กฎหมายภาวะฉุกเฉินซึ่งให้อำนาจการปราบปรามกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในการจับกุมและกักตัวผู้ต้องสงสัย