นิวส์ดอทคอมดอทเอยู - สื่อออสเตรเลียรายงานเมื่อวันอังคาร (11 ต.ค.) อ้างผู้โดยสารแฉยับ เครื่องบินของการบินไทยจากกรุงเทพฯ สู่บริสเบนออกเดินทางล่าช้า แถมจากนั้นก็ประสบปัญหาขัดข้องจนต้องลงจอดฉุกเฉินในบาหลี และโดยรวมๆ แล้วเครื่องบินลำนี้ถึงปลายทางช้ากว่ากำหนดเดิมถึง 36 ชั่วโมง
นิวส์ดอทคอมดอทเอยูรายงานว่า เครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ประสบปัญหาดีเลย์ 3 ชั่วโมงตั้งแต่อยู่ในกรุงเทพฯ และจากนั้นพอเหินขึ้นท้องฟ้าได้ไม่กี่ชั่วโมง ผู้โดยสารก็ได้รับแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับความจำเป็นในการต้องเปลี่ยนเส้นทางการบิน
เว็บไซต์ของสื่อมวลชนออสเตรเลียแห่งนี้อ้างคำบอกเล่าของ พอล พลูตา หนึ่งในผู้โดยสาร ระบุว่า เขาสอบถามลูกเรือว่าเกิดอะไรขึ้น และก็ได้รับแจ้งว่าจำเป็นต้องลงจอดฉุกเฉินสืบเนื่องจากเหตุขัดข้องเกี่ยวกับเซ็นเซอร์น้ำมัน
รายงานข่าวระบุว่า นักบินได้ปล่อยเชื้อเพลิงออกก่อนหน้าการลงจอดฉุกเฉิน ณ ท่าอากาศยานงูระห์ไร ในตอนเช้าวันจันทร์ (10 ต.ค.) ขณะที่พลูตาเล่าว่าเขารู้สึกถึงการลงจอดกระแทกรุนแรง ก่อนที่เครื่องบินจะจอดสนิท “ปกติแล้วลูกเรือจะพูดว่า cabin crew arm the doors ก่อนลงจอด แต่คราวนี้พวกเขาไม่ได้พูดแบบนั้น”
เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบเครื่องบินลำดังกล่าว และสรุปว่าเครื่องยนต์ฝั่งขวามีปัญหาเกี่ยวกับแรงดันน้ำมัน
ผู้โดยสารทั้งหมด 264 คนถูกพาตัวไปเข้าพักตามโรงแรมต่างๆ ระหว่างดำเนินการซ่อมแซมโบอิ้ง 787 แต่นายพลูตาเลือกเดินทางด้วยเที่ยวบินของสายการบินเวอร์จิน ออสเตรเลีย เพื่อกลับบ้านเร็วขึ้น
โฆษกของการบินไทยเปิดเผยว่า เครื่องบินเดินทางต่อไปยังบริสเบนในช่วงบ่ายวันอังคาร (11 ต.ค.) ก่อนลงจอดในเวลา 23.30 น. หรือล่าช้ากว่ากำหนดเดินทางถึงเดิม 36 ชั่วโมง
นิวส์ดอทคอมดอทเอยูระบุว่า เมื่อปีที่แล้วการบินไทยเคยอยู่ในประกาศเตือนของสำนักงานการบินพลเรือนของออสเตรเลีย (CASA) ตามหลังความกังวลต่างๆ ของนานาชาติ ที่ทำให้จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ห้ามเทื่ยวบินเช่าเหมาลำของการบินไทยเข้าประเทศ