เอเอฟพี - ขีปนาวุธ 2 ลูกซึ่งยิงออกมาจากเขตอิทธิพลของกบฏฮูตีในเยเมนได้พุ่งตรงมายังเรือพิฆาตลำหนึ่งของสหรัฐฯ ที่ลาดตระเวนอยู่ในทะเลแดง ทว่าโชคดีที่จรวดตกลงน้ำเสียก่อน กองทัพเรือสหรัฐฯ แถลงวันนี้ (10 ต.ค.)
พอลา ดันน์ โฆษกศูนย์บัญชาการกลางกองกำลังทางเรือของสหรัฐฯ แถลงว่า เรือพิฆาตติดขีปนาวุธนำวิถี ยูเอสเอส เมสัน ได้ตรวจพบขีปนาวุธ 2 ลูกพุ่งตรงเข้ามา โดยทิ้งช่วงห่างกันราวๆ 1 ชั่วโมง เมื่อเวลา 19.00 น.วันอาทิตย์ (9)
เรือพิฆาตลำนี้อยู่ระหว่าง “ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนในน่านน้ำสากลตามปกติ” และ “ขีปนาวุธทั้งสองลูกได้ตกลงสู่ทะเล ก่อนที่จะมาถึงเรือ” ดันน์ กล่าว
เรือยูเอสเอส เมสัน ไม่ได้รับความเสียหาย ส่วนลูกเรือสหรัฐฯ ก็ไม่ได้รับอันตรายจากเหตุการณ์นี้
“เราประเมินว่าขีปนาวุธเหล่านั้นน่าจะยิงออกมาจากดินแดนที่กบฏฮูตียึดครองอยู่” ดันน์ กล่าว โดยอ้างถึงกลุ่มกบฏนิกายชีอะห์ที่เชื่อกันว่ามีอิหร่านหนุนหลัง และกำลังทำสงครามต่อสู้กับรัฐบาลเยเมนที่นานาชาติให้การยอมรับ
วันนี้ (10) ซาอุดีอาระเบียและกลุ่มพันธมิตรอาหรับที่ทำสงครามต่อต้านกบฏฮูตี ออกมากล่าวหาเช่นกันว่า พวกกบฏได้ยิงจรวดลูกหนึ่งไปยังเมืองตออิฟ (Taif) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของซาอุฯ ทว่า กองกำลังพันธมิตรสามารถสกัดเอาไว้ได้ทัน และยังมีจรวดอีกหนึ่งลูกถูกยิงไปยังเมืองมาริบ (Marib) ในเยเมน ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงซานาไปทางทิศตะวันออก
เมื่อวันพุธที่แล้ว (5) สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ก็อ้างว่าพวกกบฏฮูตีโจมตี “เรือพลเรือนยูเออี” ที่แล่นอยู่ในช่องแคบมันเดบ (Bab al-Mandab) ทำให้คนบนเรือได้รับบาดเจ็บ
กบฏฮูตีได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุโจมตีที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ต.ค.
ยูเออีถือเป็นหุ้นส่วนสำคัญในกลุ่มพันธมิตรอาหรับซึ่งได้ทำสงครามต่อต้านกบฏฮูตีในเยเมนมาตั้งแต่เดือน มี.ค.ปี 2015
กองเรือรบอาหรับได้ปิดกั้นท่าเรือที่กบฏฮูตียึดครองอยู่ตลอดแนวชายฝั่งทะเลแดงของเยเมน โดยอนุญาตให้เรือขนสิ่งของบรรเทาทุกข์ที่ผ่านการอนุมัติจากยูเอ็นผ่านเข้าไปได้เท่านั้น
กองทัพเรือสหรัฐฯ แถลงวันนี้ (10) ว่า สหรัฐฯ “ยึดมั่นในเจตนารมณ์ที่จะปกป้องเสรีภาพในการเดินเรือทั่วทุกแห่งในโลก”
“เราจะใช้ทุกมาตรการที่จำเป็น เพื่อรับรองความปลอดภัยให้แก่เรือและทหารของเรา” โฆษกหญิงของกองทัพเรือสหรัฐฯ กล่าว
การยิงขีปนาวุธเข้าใส่เรือพิฆาตสหรัฐฯ เกิดขึ้นหลังจากที่กบฏฮูตีออกมาประณามพันธมิตรซาอุฯ ว่าโจมตีทางอากาศใส่งานศพบุคคลสำคัญของพวกฮูตีในกรุงซานา จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 140 คน บาดเจ็บอีกอย่างน้อย 525 คน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (8)
อดีตประธานาธิบดีอาลี อับดุลเลาะห์ ซาเลห์ แห่งเยเมนซึ่งเป็นพันธมิตรกับกบฏฮูตี เรียกร้องให้ระดมพลตามแนวชายแดนฝั่งที่ติดกับซาอุฯ เพื่อแก้แค้น
กบฏฮูตียึดเมืองหลวงของเยเมนไว้ได้ตั้งแต่เดือน ก.ย.ปี 2014 และได้กระจายกำลังไปยังหัวเมืองใหญ่ๆ ทั่วประเทศ ขณะที่รัฐบาลของประธานาธิบดี อับดุรรับบูห์ มันซูร์ ฮาดี ต้องหนีหัวซุกหัวซุนไปพึ่งริยาด
ข้อมูลจากองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุว่า สงครามเยเมนได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วไม่ต่ำกว่า 6,700 คน โดยเกือบ 2 ใน 3 เป็นพลเรือนตาดำๆ ขณะที่ชาวเยเมนอีกอย่างน้อย 3 ล้านคนต้องพลัดถิ่นที่อยู่เพื่อหนีตายจากปฏิบัติการทางอากาศของซาอุฯ และพันธมิตร