รอยเตอร์ - ตำรวจมาเลเซียแถลงในวันนี้ (9 ต.ค.) ว่า ได้จับกุมผู้ต้องสงสัยพัวพันเชื่อมโยงกับกลุ่มนักรบหัวรุนแรงจำนวนรวม 16 คน ระหว่างการออกปฏิบัติการกวาดล้างทั่วประเทศเป็นเวลา 2 สัปดาห์
การออกกวาดจับคราวนี้มีขึ้นระหว่างวันที่ 21 กันยายน ถึงวันที่ 6 ตุลาคม โดยผู้ถูกจับกุมเหล่านี้ 15 คน เป็นชาวมาเลเซีย และอีกคนหนึ่งเป็นพลเมืองของประเทศในแอฟริกาเหนือ ทั้งหมดมีอายุระหว่าง 20 - 38 ปี
ตามคำแถลงของตำรวจ มี 14 คนซึ่งถูกรวบตัวในข้อหาสงสัยเชื่อมโยงพัวพันกับกลุ่ม “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) ตลอดจนเป็นช่องทางส่งผ่านเงินทุนไปให้แก่ มูฮัมหมัด วันน์ดี มูฮัมหมัด เจดี ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบเหตุโจมตีด้วยลูกระเบิดที่บริเวณชานกรุงกัวลาลัมเปอร์ ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
วันน์ดี เป็นชาวมาเลเซียซึ่งตำรวจทราบเป็นอย่างดี ว่า กำลังอยู่กับกลุ่มไอเอสทำการสู้รบในซีเรีย
ผู้ต้องสงสัยอีกคนหนึ่งเป็นนักศึกษาชาวมาเลเซีย ถูกรวบตัวขณะเดินทางมาถึงท่าอากาศยานนานาชาติกรุงกัวลาลัมเปอร์ ตำรวจบอกว่านักศึกษาชายผู้นี้ได้เดินทางไปยังนครอิสตันบูล ประเทศตุรกี ด้วยความตั้งใจที่จะเดินทางต่อเข้าไปในซีเรีย ทว่า ถูกควบคุมตัวโดยทางการตุรกีตามคำขอของตำรวจแดนเสือเหลือง
สำหรับชาวต่างชาติอีกผู้หนึ่งที่เป็นพลเมืองของประเทศในแอฟริกาเหนือนั้น ตำรวจระบุว่า ถูกจับกุมเนื่องจากต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับกลุ่มอิสลามิสต์ที่ชื่อ จาห์บัต อัล นุสรา ในซีเรีย โดยที่กลุ่มนี้มีความเกี่ยวข้องกับอัลกออิดะห์
เหตุโจมตีด้วยลูกระเบิดมือที่บาร์แห่งหนึ่งบริเวณชานเมืองหลวงของมาเลเซีย เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ถูกมองว่า เป็นการโจมตีที่ประสบความสำเร็จครั้งแรกของกลุ่มไอเอสในแดนเสือเหลือง
ทางการมาเลเซียมีความตื่นตัวระมัดระวังเป็นอย่างสูง ตั้งแต่ที่เกิดเหตุโจมตีด้วยอาวุธโดยฝีมือของพวกนักรบหัวรุนแรงซึ่งโยงใยเกี่ยวข้องกับไอเอส ในกรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซีย เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา
ตอนปลายเดือนสิงหาคม ตำรวจมาเลเซียได้จับกุมชาวมาเลเซียที่เป็นผู้สนับสนุนไอเอสเป็นจำนวน 3 คน โดยกล่าวหาว่าคนเหล่านี้กำลังวางแผนก่อการโจมตีขึ้นหลาย ๆ จุดในกัวลาลัมเปอร์ ก่อนหน้าการเฉลิมฉลองวันประกาศเอกราชของประเทศ