สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติของมาเลเซียออกแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์ เรื่องการจับกุมผู้ต้องสงสัย 9 คน ฐานมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มไอเอส และยึดของกลางเป็นระเบิดมือพร้อมอาวุธปืนอีกจำนวนมาก
นอกจากนี้ ยังมีการจับกุมผู้ต้องสงสัยตแยกต่างหากเพิ่มอีก 2 คน จากการเป็นผู้จัดหาสถานที่พักพิง เพื่อหลบซ่อนตัวจากเจ้าหน้าที่ให้แก่กลุ่มหัวรุนแรง
ขณะที่ พล.ต.อ.คาฟลิด อาบู บาการ์ ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติของมาเลเซีย กล่าวว่า ในจำนวนผู้ต้องสงสัยกลุ่มแรก 9 คนนั้น มี 2 คน ให้การรับสารภาพเป็นผู้ขว้างระเบิดโจมตีไนต์คลับชานกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 8 คน โดยชาย 2 คนนี้กบดานอยู่ในท้องที่ของรัฐกลันตัน ที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ และเผยด้วยว่ากำลังรอคำสั่งจากนายมูฮัมหมัด วานดี มูฮัมหมัด เจดี พลเมืองมาเลเซียที่หลบหนีไปเป็นสมาชิกกับกลุ่มไอเอสอยู่ในซีเรีย สำหรับเป้าหมายต่อไปนอกจากนี้ ตำรวจมาเลเซียยังจับกุมพลเมืองต่างชาติ 3 คน ซึ่งเป็นอดีตทหาร ฐานใช้กรุงกัวลาลัมเปอร์เป็นฐานปฏิบัติการโจมตีแบบ ฉายเดี่ยว ในพื้นที่ที่ไม่ใช่ชุมชนชาวมุสลิมในมาเลเซีย โดยมีการประสานงานกับสมาชิกกลุ่มไอเอสในซีเรียที่เป็นชาวมาเลย์
ทั้งนี้ สถิติของสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาเลเซียระบุว่า นับตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นมา เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยเป็นสมาชิกและเครือข่ายของกลุ่มหัวรุนแรงในตะวันออกกลางได้อย่างน้อย 230 คน ในจำนวนนี้ 200 คนเป็นชาวมาเลเซีย
นอกจากนี้ ยังมีการจับกุมผู้ต้องสงสัยตแยกต่างหากเพิ่มอีก 2 คน จากการเป็นผู้จัดหาสถานที่พักพิง เพื่อหลบซ่อนตัวจากเจ้าหน้าที่ให้แก่กลุ่มหัวรุนแรง
ขณะที่ พล.ต.อ.คาฟลิด อาบู บาการ์ ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติของมาเลเซีย กล่าวว่า ในจำนวนผู้ต้องสงสัยกลุ่มแรก 9 คนนั้น มี 2 คน ให้การรับสารภาพเป็นผู้ขว้างระเบิดโจมตีไนต์คลับชานกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 8 คน โดยชาย 2 คนนี้กบดานอยู่ในท้องที่ของรัฐกลันตัน ที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ และเผยด้วยว่ากำลังรอคำสั่งจากนายมูฮัมหมัด วานดี มูฮัมหมัด เจดี พลเมืองมาเลเซียที่หลบหนีไปเป็นสมาชิกกับกลุ่มไอเอสอยู่ในซีเรีย สำหรับเป้าหมายต่อไปนอกจากนี้ ตำรวจมาเลเซียยังจับกุมพลเมืองต่างชาติ 3 คน ซึ่งเป็นอดีตทหาร ฐานใช้กรุงกัวลาลัมเปอร์เป็นฐานปฏิบัติการโจมตีแบบ ฉายเดี่ยว ในพื้นที่ที่ไม่ใช่ชุมชนชาวมุสลิมในมาเลเซีย โดยมีการประสานงานกับสมาชิกกลุ่มไอเอสในซีเรียที่เป็นชาวมาเลย์
ทั้งนี้ สถิติของสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาเลเซียระบุว่า นับตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นมา เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยเป็นสมาชิกและเครือข่ายของกลุ่มหัวรุนแรงในตะวันออกกลางได้อย่างน้อย 230 คน ในจำนวนนี้ 200 คนเป็นชาวมาเลเซีย
