มาร์เก็ตวอตช์/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันขึ้นเหนือ 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในวันพฤหัสบดี (6 ต.ค.) นักลงทุนจับตาเฮอริเคนแมทธิวอาจก่อความยุ่งเหยิงด้านอุปทานทางตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ ส่วนวอลล์สตรีททรงตัวก่อนหน้าการเปิดเผยข้อมูลภาคแรงงานอันสำคัญ ขณะที่ทองคำร่วงแตะระดับต่ำสุดรอบ 4 เดือน คาดเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆ นี้
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้น 61 เซ็นต์ ปิดที่ 50.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 65 เซ็นต์ ปิดที่ 52.51 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนเช่นกัน
ฟิล ฟินน์ นักวิเคราะห์ตลาดระดับอาวุโสของไพรซ์ ฟิวเจอร์ส กรุ๊ป ให้ความเห็นว่า “เฮอร์ริเคนแมทธิวกำลังมุ่งหน้าสู่ชายฝั่งตะวันออก อุปทานน้ำมันสหรัฐฯ ยังคงลดลง ส่วนโอเปกและชาตินอกสมาชิกโอเปกก็พร้อมหารือกันในอิสตันบูลเพื่อเคาะรายละเอียดของการลดกำลังผลิตร่วม”
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี (6 ต.ค.) ปิดลบในกรอบแคบๆ ก่อนหน้าการเปิดเผยข้อมูลภาคแรงงานในวันศุกร์ (7 ต.ค.) ซึ่งจะเป็นตัวชี้ชะตาสำคัญว่าธนาคารกลางอเมริกา (เฟด) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วงปลายปีนี้หรือไม่
ดาวโจนส์ลดลง 12.53 จุด (0.07 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 18,268.50 จุด เอสแอนด์พีเพิ่มขึ้น 1.04 จุด (0.05 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,160.77 จุด แนสแดคลดลง 9.17 จุด (0.17 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,306.85 จุด
ราคาน้ำมันดิบที่ขยับขึ้นต่อเนื่องสนับสนุนแนวคิดที่ว่าเศรษฐกิจกำลังแข็งแกร่งขึ้น เช่นเดียวกับรายงานฉบับหนึ่งที่เผยให้เห็นว่ายอดชาวอเมริกันยื่นขอรับสิทธิประโยชน์คนว่างงานลดลงผิดคาดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แตะระดับต่ำสุดเกือบ 43 ปี
ข้อมูลนี้ปรากฏออกมา 1 วันก่อนหน้าการเผยแพร่ข้อมูลภาคแรงงานสหรัฐฯ ประจำเดือนกันยายน ท่ามกลางความคาดหมายว่าเศรษฐกิจของอเมริกาสามารถสร้างงานได้ราวๆ 175,000 อัตราเมื่อเดือนที่แล้ว
ตัวเลขดังกล่าวช่วยเสริมมุมมองความเป็นไปได้ที่เฟดอาจขึ้นดอกเบี้ย ณ ที่ประชุมประจำเดือนธันวาคม และปัจจัยนี้เองที่ผลักให้ดอลลาร์แข็งค่าสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคมเมื่อเทียบกับตะกร้าเงิน และฉุดให้ทองคำปิดลบแรง
โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์เมื่อวันพฤหัสบดี (6 ต.ค.) ลดลง 15.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,253.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ถือเป็นการปรับลด 5 วันติดต่อกันและแตะระดับต่ำสุดในรอบราว 4 เดือน
