เอเอฟพี - ชาวต่างชาติที่สมัครเข้าร่วมกับกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ส่วนใหญ่มีการศึกษาดีกว่าประชากรโดยเฉลี่ยในประเทศของพวกเขาเองเสียอีก ซึ่งสวนทางกับความเชื่อของคนทั่วไป ผลการศึกษาล่าสุดของธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) เผย
งานวิจัยซึ่งใช้ชื่อว่า “การหลอมรวมทางเศรษฐกิจและสังคมเพื่อสกัดกั้นลัทธิหัวรุนแรง” (Economic and Social Inclusion to Prevent Violent Extremism) ยังพบอีกว่า พวกที่ยอมเป็นมือระเบิดฆ่าตัวตายมักมีการศึกษาดีกว่านักรบทั่วไป
งานวิจัยชิ้นนี้มุ่งศึกษาปัจจัยทางเศรษฐกิจและสังคมที่อาจอธิบายได้ว่า เหตุใดคนบางกลุ่มจึงถูกดึงไปเข้าร่วมกับกลุ่มไอเอสในซีเรีย
ผลวิจัยได้ข้อสรุปชัดเจนว่า ความยากจน (poverty) และการถูกลิดรอน (deprivation) ไม่ใช่สาเหตุหลักที่ทำให้คนเลือกสนับสนุนไอเอส
นักรบต่างชาติเกือบทุกรายที่จับอาวุธสู้รบร่วมกับไอเอสในอิรักและซีเรีย เคยผ่านการศึกษาในประเทศของตนมามากกว่าพลเมืองโดยเฉลี่ย ไม่ว่าจะเป็นในยุโรป แอฟริกา หรือภูมิภาคอื่นๆ ก็ตาม
“ความยากจนไม่ใช่สิ่งกระตุ้นให้แนวคิดรุนแรง (radicalization) ถูกเปลี่ยนไปเป็นลัทธิสุดโต่งที่นิยมความรุนแรง (violent extremism)” รายงานระบุ
เวิลด์แบงก์อ้างถึงรายชื่อนักรบ 331 คนซึ่งอยู่ในฐานข้อมูลของไอเอสที่รั่วไหล โดยพบว่ามีแค่ร้อยละ 17 เท่านั้นที่ไม่จบไฮสกูล และ 1 ใน 4 เคยผ่านการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยมาแล้ว
งานวิจัยพบว่า มีเพียงนักรบจากประเทศแถบยุโรปตะวันออกเท่านั้นที่การศึกษาต่ำกว่าค่าเฉลี่ย และมีอยู่น้อยมากด้วย
“นักรบชาวต่างชาติจากตะวันออกกลาง อเมริกาเหนือ เอเชียใต้ และเอเชียตะวันออก เป็นกลุ่มที่มีการศึกษาสูงกว่าประชากรโดยเฉลี่ยในภูมิภาคนั้นๆ” เวิลด์แบงก์เผย
ผู้สมัครเป็นนักรบไอเอสร้อยละ 30 ระบุชัดเจนว่าพวกเขาต้องการทำงานในตำแหน่งใด ราว 1 ใน 9 อาสาที่จะเป็นมือระเบิดฆ่าตัวตาย ซึ่งระดับการศึกษาของคนกลุ่มนี้สูงพอๆ กับพวกที่ต้องการทำงานด้านบริหาร
“สัดส่วนผู้บริหารและมือระเบิดฆ่าตัวตายจะเพิ่มขึ้นตามระดับการศึกษา” งานวิจัยเผย
ผู้สมัครเกือบทุกรายล้วนเคยประกอบอาชีพอื่นมาก่อน แต่สำหรับพวกที่เลือกเป็น “นักรบพลีชีพ” นั้นส่วนใหญ่ไม่มีประสบการณ์ทำงาน หรือไม่ก็เป็นอดีตทหาร
“สิ่งสำคัญที่เราพบก็คือ บุคคลเหล่านี้ไม่ใช่ว่าไร้การศึกษา หรืออ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ ส่วนใหญ่เคยเข้าโรงเรียนมัธยม และที่เรียนมหาวิทยาลัยก็มีไม่น้อย” รายงานระบุ
“ไอเอสไม่ได้พุ่งเป้าชักจูงคนต่างชาติที่ฐานะยากจน หรือการศึกษาต่ำ แต่กลับตรงกันข้ามทีเดียว... และการขาดโอกาสทางเศรษฐกิจ (lack of economic inclusion) ดูเหมือนจะมีส่วนทำให้คนที่มีแนวคิดสุดโต่งอยู่เดิมกลายเป็นพวกนิยมความรุนแรง”
