รอยเตอร์ - นากยกรัฐมนตรี โทนี แอ็บบอตต์ ของออสเตรเลีย ประกาศในวันนี้ (19) ว่า จะไม่มีการนิรโทษกรรมให้กับพลเมืองแดนจิงโจ้ที่พยายามออกจากกลุ่มติดอาวุธต่างแดนและกลับมายังประเทศบ้านเกิดโดยเด็ดขาด ท่ามกลางกระแสการรายงานของสื่อว่า รัฐบาลของเขากำลังเจรจากับผู้ที่อาจเป็นผู้แปรพักตร์
สถานีวิทยุและโทรทัศน์ออสเตรเลีย (เอบีซี) รายงานว่า ทางการออสเตรเลียในตะวันออกกลางกำลังเจรจาอยู่กับนักรบกลุ่มหัวรุนแรงรัฐอิสลาม (ไอเอส) ชาวออสซี 3 คน ที่ต้องการจะออกจากกลุ่ม แต่เกรงกลัวการถูกจำคุกที่ประเทศบ้านเกิด
แอ็บบอตต์ ซึ่งดูเหมือนว่าจะยืนยันถึงความกลัวของพวกเขาในวันนี้ (19) มีนโยบายอันเด็ดขาดในการจัดการกับเหล่าผู้ที่เพิกเฉยต่อกฎหมายออสเตรเลียที่ห้ามอย่างชัดเจนไม่ให้พวกเขาเข้าไปมีส่วนร่วมในความขัดแย้งในซีเรียและอิรัก
“หากคุณไปต่างแดนเพื่อละมิดกฎหมายออสเตรเลีย หากคุณไปต่างแตนเพื่อสังหารคนบริสุทธิ์ในนามของลัทธิหัวรุนแรงและลัทธิรากฐานนิยมซึ่งชี้นำไปในทางที่ผิด หากคุณไปต่างแดนเพื่อกลายเป็นมือมือสังหารอิสลามิสต์ เราจะไม่ต้อนรับคุณกลับสู่ประเทศนี้” แอ็บบอตต์ บอกกับผู้สื่อข่าว
“หากคุณไปต่างแดนเพื่อเข้าร่วมกลุ่มก่อการร้ายและคุณพยายามที่จะกลับเข้ามายังออสเตรเลีย คุณจะถูกจับกุม คุณจะถูกดำเนินคดีและถูกจำคุก”
นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคง ระบุว่า จำนวนของนักรบชาวต่างชาติในอิรักและซีเรียที่เดินทางจากหลายสิบประเทศทั่วโลกนั้นมีอยู่หลายพันคน
แอ็บบอตต์ บอกกับรัฐสภาว่า ชาวออสเตรเลียอย่างน้อย 70 คนกำลังต่อสู้อยู่ในอิรักและซีเรียโดยได้รับการสนับสนุนจาก “ผู้อำนวยความสะดวก” ที่มีฐานอยู่ในแดนจิงโจ้ราว 100 คน
ออสเตรเลีย ซึ่งอยู่ระหว่างการเฝ้าระวังขั้นสูงสำหรับการโจมตีโดยชาวมุสลิมหัวรุนแรงหรือกลุ่มติดอาวุธที่กลับมาจากการสู้รบในตะวันออกกลาง ได้เพิ่มระดับภัยคุมคามในประเทศเป็นระดับสูงและดำเนินการตรวจค้นขนานใหญ่หลายระลอกในเมืองสำคัญต่างๆ
ภายใต้อำนาจด้านความมั่นคงอย่างใหม่อันเข้มงวดที่รัฐบาลอนุรักษ์นิยมของ แอ็บบอตต์ ได้รับมาในเดือนตุลาคม พลเมืองแดนจิงโจ้อาจต้องรับโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี สำหรับการเดินทางไปยังพื้นที่ต่างแดนที่ถูกประกาศว่าห้ามเข้า