สหรัฐฯ ระงับเจรจารัสเซียรื้อฟื้นข้อตกลงหยุดยิงซีเรีย โวยหนุน รบ.อัสซาดยกระดับโจมตีพลเรือน

เอเอฟพี - สหรัฐฯ ในวันจันทร์ (3 ต.ค.) ระงับการเจรจากับรัสเซีย ในความพยายามรื้อฟื้นข้อตกลงหยุดยิงในซีเรียและจัดตั้งเครือข่ายทหารร่วมสำหรับเล็งเป้าหมายเล่นงานพวกญิฮาด โดยกล่าวหามอสโกและรัฐบาลประธานาธิบดี บาชาร์ อัลซาด ยกระดับถล่มพื้นที่พลเรือน อย่างไรก็ตามทางเครมลินรุดออกมาตอบโต้ทันควัน ระบุการตัดสินใจของวอชิงตันเป็นเพียงความเคลื่อนไหวโยนความรับผิดชอบต่อความล้มเหลวใส่รัสเซียเท่านั้น

“มันไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่ายดายเลย” จอห์น เคอร์บี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุ พร้อมกล่าวหารัสเซียและซีเรียยกระดับการโจมตีใส่พื้นที่พลเรือน

เคอร์บีบอกว่า รัสเซียและกองกำลังสหรัฐฯ จะยังคงใช้ช่องทางการติดต่อสื่อสารที่จัดตั้งขึ้นมา เพื่อรับประกันว่ากองกำลังของทั้งสองฝ่ายจะไม่เผชิญหน้ากันระหว่างปฏิบัติการต่อต้านก่อการร้ายในซีเรีย

กระนั้นก็ตามเหล่าเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ที่ถูกส่งไปยังเจนีวาเพื่อจัดตั้งศูนย์ดำเนินการร่วมกับเจ้าหน้าที่รัสเซียสำหรับวางแผนโจมตีร่วมกัน ได้ถูกวอชิงตันเรียกตัวกลับประเทศแล้ว

ขณะเดียวกัน เหล่าเจ้าหน้าที่ทูตของสหรัฐฯ ก็จะระงับการหารือกับรัสเซีย ในความพยายามรื้อฟื้นข้อตกลงหยุดยิงที่เห็นพ้องกันระหว่างนายจอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกา กับ เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศมอสโก เมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา

ข้อตกลงดังกล่าวมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 12 กันยายน แต่พังครืนลงภายในเวลาเพียงแค่สัปดาห์เดียว ท่ามกลางการกล่าวโทษกันไปมาอย่างดุเดือด และเหตุสู้รบในสงครามกลางเมืองอายุ 5 ปีที่โหมกระพือขึ้นอีกรอบ

วอชิงตันกล่าวหามอสโกว่าล้มเหลวในการควบคุมกองกำลังของรัฐบาลประธานาธิบดีอัสซาดและสนับสนุนปฏิบัติการโจมตีที่มีเป้าหมายพลเรือนของผู้นำรายนี้ แต่รัสเซียตอบโต้กลับว่าอเมริกาล้มเหลวในการแยกกบฏสายกลางต่อต้านนายอัสซาดออกจากพวกญิฮาดที่มีความเชื่อมโยงกับอัลกออิดะห์

“เคราะห์ร้ายที่รัสเซียล้มเหลวในการทำตามพันธสัญญาของตนเอง ในนั้นรวมถึงข้อผูกมัดของพวกเขาภายใต้กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ” เคอร์บีระบุในถ้อยแถลง

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุต่อว่า รัสเซียไม่มีทั้งความตั้งใจและไม่สามารถรับประกันได้ว่ารัฐบาลซีเรียจะปฏิบัติตามข้อตกลงต่างๆ ที่ทางมอสโกเห็นพ้อง “ยิ่งไปกว่านั้น รัสเซียและรัฐบาลซีเรียยังเหลือแสวงหาเส้นทางทางทหารที่ไม่สอดคล้องกับข้อตกลงยุติความเป็นปรปักษ์ โดยแสดงให้เห็นผ่านการยกระดับโจมตีพื้นที่พลเรือนอย่างหนักหน่วง”

เคอร์บีกล่าวหาด้วยว่ามอสโกและดามัสกัสยังเล็งเป้าหมายไปที่โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ อันสำคัญ อย่างเช่นโรงพยาบาล และขัดขวางไม่ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าถึงพลเรือนที่ต้องการ พร้อมย้ำคำกล่าวหาของวอชิงตันที่ว่ารัสเซียและรัฐบาลซีเรียอยู่เบื้องหลังการโจมตีขบวนรถบรรเทาทุกข์ของสหประชาชาติ รอบนอกเมืองอะเลปโป ทางเหนือของซีเรีย เมื่อวันที่ 19 กันยายน

ไม่นานหลังถ้อยแถลงของนายเคอร์บี ทางกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียในวันจันทร์(3 ต.ค.) ระบุว่ารู้สึกเสียใจที่สหรัฐฯ ตัดสินใจระงับการเจรจารื้อฟื้นข้อตกลงหยุดยิงซีเรีย และบอกว่าวอชิงตันพยายามบ่ายเบี่ยงโยนความรับผิดชอบความล้มเหลวเข้าใส่มอสโก

“เราเสียใจที่วอชิงตันตัดสินใจแบบนี้” มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียระบุ พร้อมชี้ว่า “หลังจากสหรัฐฯ ล้มเหลวทำตามข้อตกลงที่ตนเองจัดทำขึ้น พวกเขาก็พยายามโยนความรับผิดชอบเข้าใส่คนอื่นๆ”