รอยเตอร์ - เด็กชายวัย 14 ปีที่มลรัฐเซาท์แคโรไลนาใช้ปืนยิงบิดาของตนเองเสียชีวิต ก่อนขับรถออกไปยังสนามเด็กเล่นของโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งและชักปืนออกมากราดยิง เป็นเหตุให้เด็กนักเรียน 2 คนและครู 1 คนได้รับบาดเจ็บ ตำรวจสหรัฐฯ แถลงเมื่อวันพุธ (28 ก.ย.)
พนักงานดับเพลิงคนหนึ่งเข้าล็อกตัวมือปืนวัยทีนคนนี้ไว้ได้ และนำตัวส่งให้ตำรวจ
ผู้ต้องหาซึ่งไม่ได้รับการเปิดเผยชื่อถูกตำรวจตั้งข้อหายิง เจฟฟรีย์ ดิววิตต์ ออสบอร์น อายุ 47 ปี บิดาของตนเอง จากนั้นจึงขับรถกระบะมุ่งตรงไปที่โรงเรียนประถมทาวน์วิลล์ (Townville Elementary School) ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 3 กิโลเมตร และนำรถพุ่งชนกับรั้วสนามเด็กเล่น
หลังจากเด็กคนนี้ชักปืนออกมายิงใส่ผู้คน เจมี บร็อก ซึ่งเป็นอาสาสมัครดับเพลิงได้เข้าไปล็อกตัวเขาไว้กับพื้น ขณะที่บรรดาครูช่วยกันพานักเรียนคนอื่นๆ กลับเข้าไปในอาคารเพื่อความปลอดภัย ตามข้อมูลที่ เทย์เลอร์ โจนส์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริการเหตุฉุกเฉินประจำเทศมณฑลแอนเดอร์สัน แถลงต่อสื่อมวลชน
ตำรวจเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุในอีก 7 นาทีต่อมา หลังจากครูคนหนึ่งโทร.แจ้ง 911 ให้มารับตัวผู้ต้องหาที่โรงเรียนซึ่งอยู่ห่างจากเมืองแอตแลนตาในรัฐจอร์เจียไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 160 กิโลเมตร
คีธ สมิธ รองผู้ปกครองเทศมณฑลแอนเดอร์สัน ยืนยันว่ามือปืนเด็กรายนี้ไม่ได้เข้าไปในอาคารของโรงเรียน
ล่าสุดทางการยังไม่ทราบแรงจูงใจในการกราดยิง แต่ตำรวจได้ตัดประเด็นเรื่องเชื้อชาติออก เนื่องจากทั้งมือปืนและเหยื่อล้วนแต่เป็นคนขาว
โรงเรียนทั่วสหรัฐฯ ได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเป็นพิเศษ หลังเกิดเหตุมือปืนบุกเข้าไปกราดยิงครูและนักเรียนเสียชีวิต 26 รายที่โรงเรียนประถมแซนดีฮุคในเมืองนิวทาวน์ รัฐคอนเน็ตทิคัต เมื่อปี 2012
บร็อค วัย 30 ปี ซึ่งเป็นอดีตอาสาสมัครดับเพลิงในเมืองทาวน์วิลล์ ได้รับการยกย่องในสื่อสังคมออนไลน์ว่าเป็น “วีรบุรุษ” ที่ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการสังหารหมู่ในโรงเรียนขึ้นอีกครั้ง
“เขาอยู่ในที่เกิดเหตุ และยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อไม่ให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปกว่านี้” โจนส์ กล่าว “เขาแค่ต้องออกแรงมากหน่อยเพื่อล็อกตัวมือปืนลงกับพื้น”
ด.ช. เจค็อบ ฮอลล์ อายุ 6 ขวบ ถูกกระสุนเข้าที่ขา และอาการยังอยู่ในขั้นวิกฤต ส่วนเด็กชายวัย 6 ขวบอีกคนหนึ่งซึ่งถูกยิงที่เท้า และครูผู้หญิงซึ่งโดนกระสุนปืนที่ไหล่ ได้รับการรักษาแผลและออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว
การ์แลนด์ เมเจอร์ รองผู้ปกครองเทศมณฑลแอนเดอร์สันอีกคนหนึ่ง บอกกับสื่อมวลชนว่า ตนยังไม่ทราบความสัมพันธ์ระหว่างมือปืนกับเหยื่อซึ่งถูกยิงที่โรงเรียน เนื่องจากเด็กชายคนนี้เรียนหนังสือที่บ้าน (home-schooled)
ในวันเกิดเหตุ เขาได้โทรศัพท์ถึงคุณย่า ซึ่งเดินทางมาที่บ้านและพบว่าลูกชายถูกยิงเสียชีวิตแล้ว
“เธอฟังไม่รู้เรื่องว่าเขาพูดอะไร เพราะเขาเอาแต่ร้องไห้ฟูมฟาย จากนั้นเธอก็เดินทางไปที่บ้าน และพบว่าลูกชายถูกยิงเสียชีวิต จึงโทรแจ้ง 911” เกร็ก ชอร์ เจ้าหน้าที่ชันสูตร แถลงต่อสื่อมวลชนเมื่อค่ำวานนี้ (28)
โรงเรียนประถมแห่งนี้มีนักเรียนประมาณ 280 คน
หลังเกิดเหตุกราดยิงขึ้น ตำรวจได้ช่วยอพยพนักเรียนทั้งหมดขึ้นรถบัสไปส่งที่โบสถ์แห่งหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้ๆ กัน
เหตุการณ์นี้ถือเป็นอาชญากรรมจากอาวุธปืนครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นในโรงเรียนของสหรัฐฯ ซึ่งก่อให้เกิดการถกเถียงเรื่องสิทธิในการครอบครองปืน
เมื่อต้นเดือนนี้ เด็กหญิงวัย 14 ปีคนหนึ่งก็ใช้ปืนยิงใส่เพื่อนนักเรียนที่โรงเรียนมัธยมในเขตชนบทของรัฐเทกซัส ก่อนจะลั่นไกปลิดชีพตนเอง