เอเจนซีส์ - ตำรวจสหรัฐฯ รวบหนุ่มอเมริกันเชื้อสายฮิสแปนิกซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยหลักในคดีจ่อยิงอิหม่ามและผู้ช่วยที่นครนิวยอร์กเมื่อวันเสาร์ (13 ส.ค.) ถือเป็นการฆ่าอย่างอุกอาจที่สร้างความสะเทือนใจและโกรธแค้นต่อชาวมุสลิมทั่วอเมริกา ตำรวจแถลงเมื่อวันจันทร์ (15)
ชาวมุสลิมที่อาศัยอยู่ในนครนิวยอร์กต่างเรียกร้องให้ตำรวจเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย และให้ความเป็นธรรม ขณะที่ผู้คนหลายร้อยเดินทางไปร่วมพิธีศพอิหม่ามและผู้ช่วยซึ่งจัดขึ้นที่เขตควีนส์
เมาลามา อาคอนจี วัย 55 ปี ซึ่งอพยพจากบังกลาเทศมาอยู่สหรัฐฯ และ ธารา อุดดิน วัย 64 ปี ผู้ช่วยของเขา ถูกคนร้ายจ่อยิงกลางวันแสกๆ เมื่อบ่ายวันเสาร์ (13) ที่ย่านโอโซนปาร์ก
ตำรวจระบุว่า ผู้ต้องสงสัยคือ ออสการ์ โมเรล หนุ่มเชื้อสายฮิสแปนิกวัย 35 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ที่เขตบรุกลิน โดยตำรวจได้ตั้งข้อหาฆาตกรรมโดยไตร่ตรองไว้ก่อน (second-degree murder) 2 กระทง และข้อหาพกพาอาวุธ
“จากหลักฐานที่ตำรวจรวบรวมได้จนถึงขณะนี้ เราเชื่อแน่ว่าเขาคือคนร้าย” โรเบิร์ต บอยซ์ หัวหน้าหน่วยสืบสวน แถลงต่อสื่อมวลชน
ผู้นำมุสลิมต่างเชื่อว่าเหตุการณ์นี้เข้าข่าย “อาชญากรรมความเกลียดชัง” แต่ตำรวจยังปฏิเสธที่จะฟันธงลงไปเช่นนั้น
บอยซ์เผยว่า โมเรล เข้าไปป้วนเปี้ยนอยู่แถวมัสยิดราว 8 นาทีก่อนจะลงมือสังหารเหยื่อ
ตำรวจได้เข้าตรวจค้นบ้านของโมเรล เมื่อวันจันทร์ (15) เพื่อค้นหาอาวุธที่ใช้ก่อเหตุและเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่ ตลอดจนรวบรวมข้อมูลจากพยานผู้เห็นเหตุการณ์
มือปืนรายนี้อาศัยอยู่ในย่านบรุกลิน และน่าจะเป็นพนักงานของโกดังสินค้าแห่งหนึ่ง
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กเดลีนิวส์อ้างแหล่งข่าวตำรวจซึ่งระบุว่า คนร้ายอาจต้องการแก้แค้นเหตุกระทบกระทั่งระหว่างคนเชื้อสายฮิสแปนิกกับชาวมุสลิมในพื้นที่ ทว่าสมมติฐานข้อนี้ถูกปฏิเสธอย่างแข็งขันจากชุมชนมุสลิมเอง
สภาความสัมพันธ์อเมริกัน-อิสลาม (Council on American-Islamic Relations) ได้เสนอมอบเงินรางวัล 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ แก่ผู้ที่ให้เบาะแสจนนำไปสู่การจับกุมหรือเอาผิดกับคนร้ายได้
ผู้นำมุสลิมซึ่งกังวลเรื่องกระแสเกลียดกลัวอิสลาม (Islamophobia) ที่ทวีความรุนแรงขึ้นในสังคม ต่างออกมาประณาม “นักการเมืองและผู้สมัครชิงตำแหน่งสูงสุดในประเทศนี้” ที่มักจะใช้คำพูดยั่วยุให้คนเกิดความชิงชังชาวต่างชาติ (xenophobic statements) ซึ่งแน่นอนว่าจะหมายถึงใครไปไม่ได้ นอกจากมหาเศรษฐี “โดนัลด์ ทรัมป์”
ทรัมป์ ซึ่งเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน ได้ขึ้นเวทีปาฐกถาเมื่อวันจันทร์ (15) โดยเรียกร้องให้รัฐบาลหาวิธีคัดกรอง “ระบบความคิด” ของผู้ที่ต้องการอพยพเข้ามายังอเมริกา พร้อมย้ำว่าคนเหล่านี้เป็นต้นเหตุทำให้อเมริกาต้องเผชิญเหตุโจมตีโดยกลุ่มหัวรุนแรงบ่อยขึ้นเรื่อยๆ
ผู้ที่ขึ้นเวทีปราศรัยคนหนึ่งเรียกร้องให้ติดตั้งกล้องวงจรปิดด้านหน้ามัสยิดทุกแห่ง และให้นำชื่อของอิหม่ามและผู้ช่วยไปตั้งเป็นชื่อถนนที่พวกเขาถูกสังหาร เพื่อเป็นการให้เกียรติ
บิล เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีนิวยอร์กซึ่งเดินทางไปร่วมพิธีศพพร้อมกับเจ้าหน้าที่อีกหลายคน ยืนยันว่าจะมีการเพิ่มกำลังตำรวจเพื่อคุ้มกันมัสยิดและชุมชนชาวมุสลิม
“เราจะนำตัวผู้ที่ก่อเหตุมารับโทษตามกระบวนการยุติธรรมอย่างแน่นอน ผมรับปาก” บลาซิโอ กล่าว
เมื่อวันอาทิตย์ (14) ตำรวจได้เผยแพร่ภาพสเก็ตช์ผู้ต้องสงสัย “ซึ่งมีสีผิวระดับกลาง (medium complexion) และมีผู้พบเห็นครั้งล่าสุดว่าเขาสวมเสื้อเชิ้ตสีเข้ม และกางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน”
ชายในภาพนั้นสวมแว่น ไว้หนวดไว้เครา หน้าผากโหนกสูง และหวีผมปัดไปด้านหลัง
อิหม่ามอาคอนจีและผู้ช่วยถูกยิงเสียชีวิตในย่านผู้ใช้แรงงานระหว่างเขตควีนส์และบรุกลิน ซึ่งมีชุมชนมุสลิมจากบังกลาเทศอาศัยอยู่หลายครอบครัว
ตำรวจระบุว่า เงินสดกว่า 1,000 ดอลลาร์สหรัฐในตัวอาคอนจียังคงอยู่ครบถ้วน แสดงว่าคนร้ายไม่ได้ประสงค์ต่อทรัพย์