เอเจนซีส์ - ธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) คงอัตราคาดการณ์การเติบโตของเอเชียปีนี้และปีหน้าอยู่ที่ 5.7% ชี้ปัจจัยหนุนมาจากการขยายตัวอย่างยั่งยืนของจีนและอินเดีย สำหรับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีไทยและฟิลิปปินส์เป็นเฟืองจักรสำคัญในช่วง 6 เดือนแรก อย่างไรก็ดี ยังมีความเสี่ยงขาลงที่พึงระวังจากผลพวงการขึ้นดอกเบี้ยของอเมริกา
เอดีบีปรับเพิ่มอัตราเติบโตของจีนปีนี้จากที่เคยคาดไว้ 6.5% เป็น 6.6% และสำหรับปีหน้าเพิ่มจาก 6.3% เป็น 6.4% โดยระบุว่าเนื่องจากมาตรการกระตุ้นทางการเงินและการคลังในประเทศเศรษฐกิจอันดับ 2 ของโลกแห่งนี้
รายงานฉบับล่าสุดของเอดีบีที่เผยแพร่เมื่อวันอังคาร (27 ก.ย.) คงตัวเลขคาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของอินเดียปีนี้ไว้ที่ 7.4% และ ในปี 2017 อยู่ที่ 7.8% และระบุว่าเพราะได้แรงหนุนจากการบริโภคที่แข็งแกร่งและการฟื้นตัวของการลงทุน
จูจง จ้วง รองหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเอดีบี อธิบายเพิ่มเติมว่า การเติบโตอย่างแข็งแกร่งในจีนและอินเดียเช่นนี้ ช่วยรักษาโมเมนตัมการเติบโตของทั่วทั้งเอเชีย อย่างไรก็ตาม ผู้วางนโยบายทั้งหลายยังจำเป็นต้องจับตาความเสี่ยงขาลง ซึ่งรวมถึงแนวโน้มเงินทุนไหลกลับที่อาจเกิดจากการเปลี่ยนปลงนโยบายการเงินในประเทศพัฒนาแล้ว โดยเฉพาะอเมริกา
รายงานแจกแจงว่า ความเป็นไปได้ที่อเมริกาจะขึ้นดอกเบี้ยจะทำให้การไหลเวียนของเงินทุนสะดุด และสร้างปัญหาในการจัดการเศรษฐกิจมหภาคในเอเชีย
“หนี้เอกชนในหลายประเทศของเอเชียขณะนี้เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจกลายเป็นหนี้ที่ไม่ยั่งยืนหากเศรษฐกิจประสบปัญหาหรือมีการขึ้นดอกเบี้ยแรง” เอดีบีเตือน
ถึงแม้สัปดาห์ที่แล้ว ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายของตนเอาไว้ แต่ก็ส่งสัญญาณชัดเจนว่า อาจปรับใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้นตอนปลายปีนี้ หากตลาดแรงงานของสหรัฐฯปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฟดยังมีวาระการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (เอฟโอเอ็มซี) ในปีนี้เหลืออีก 2 ครั้ง
เฟดนั้นเพิ่งขยับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบเกือบทศวรรษ เมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา
เกี่ยวกับเศรษฐกิจของบรรดาชาติพัฒนาแล้วทั้งหลาย เอดีบีได้ลดการคาดการณ์การเติบโตโดยรวมของสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และยูโรโซนในปีนี้ลงถึง 0.4% มาอยู่ที่ 1.4% สืบเนื่องจากความล่าช้าในการฟื้นตัวของหลายประเทศอุตสาหกรรมสำคัญเหล่านี้ แต่เชื่อว่าในปีหน้าตัวเลขจะขยับขึ้นเป็น 1.8%
การปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจจีน กระตุ้นให้เอดีบีปรับเพิ่มจีดีพีของเอเชียตะวันออกโดยรวม จากที่คาดไว้ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาว่าปีนี้จะโต 5.7% ก็เป็น 5.8% ส่วนปี 2017 นั้นคงเดิมที่ 5.6%
สำหรับ 5 ประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น เอดีบีคงตัวเลขคาดการณ์เดิมว่าปีนี้โต 4.8% พร้อมระบุว่า ไทยและฟิลิปปินส์มีการเติบโตเข้มแข็งในช่วง 6 เดือนแรก ตรงข้ามกับอินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียดนามที่ถูกปรับลดตัวเลขคาดการณ์ลง
เอดีบีขยายความว่า การลงทุนของภาครัฐในด้านโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะในอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และไทยนั้น ช่วยให้เศรษฐกิจสามารถต้านทานความซบเซาของอุปสงค์การส่งออก และความแห้งแล้งที่ทำให้ผลผลิตการเกษตรในช่วงครึ่งปีแรกลดลงในแทบทุกประเทศ ยกเว้นอินโดนีเซีย
สำหรับปีหน้านั้น 5 ประเทศเศรษฐกิจใหญ่สุดในเอเชียอาคเนย์ได้รับการคาดหมายว่า จะขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 5% จากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งขึ้นจากพวกประเทศอุตสาหกรรมสำคัญ ราคาสินค้าออกขยับขึ้น และการลงทุนในภาคโครงสร้างพื้นฐานที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ เอดีบียังปรับเพิ่มการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อของประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียในปีนี้จาก 2.5% เป็น 2.6% และปีหน้าจาก 2.7% เป็น 2.9% เนื่องจากปัจจัยเรื่องราคาน้ำมันและราคาอาหารในตลาดโลก
รายงานยังเตือนความเสี่ยงจากสภาพภูมิอากาศ เช่น ฤดูฝนที่จะสั้นลง ภัยแล้งที่รุนแรงขึ้น และการระบาดของศัตรูพืชและโรค ซึ่งหากไม่สามารถควบคุมได้ อาจทำให้เกิดการสูญเสียทางเศรษฐกิจคิดเป็นมูลค่าถึง 10% ของจีดีพีของเอเชียภายในปี 2100