เอเจนซีส์ – CNN สื่อสหรัฐฯรายงานผลการดีเบตระหว่างฮิลลารี คลินตัน และโดนัลด์ ทรัมป์ในการดีเบตประธานาธิบดีสหรัฐฯครั้งแรกเมื่อคืนวานนี้(26 ก.ย)พบ ค่าสุกลเงินเปโซของเม็กซิโกขยับขึ้นทันทีไม่ต่ำกว่า 2% แสดงให้เห็นว่า ทรัมป์ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกันที่มีนโยบายแข็งกร้าวต่อผู้อพยพลาตินอเมริกาไม่ใช่ผู้ชนะในคืนวันจันทร์(26 ก.ย) ในขณะที่หนังสิอวอชิงตันโพสต์ สื่อยักษ์ใหญ่สหรัฐฯ ฟันธงยกให้คลินตัน ตัวแทนจากพรรคเดโมแครตชนะการประชันนโยบาย ฐานเตรียมตัวมาดี แถมต้อนเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ ประเด็นภาษีจนติดคามุมเชือก
CNN สื่อสหรัฐฯรายงานวันนี้(27 ก.ย) ว่า ผลการดีเบตประชันนโยบายครั้งแรกของ 2 ตัวแทนผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันที่ถูกจัดขึ้นในมหาวิทยาลัยฮอฟสตรา บนเกาะลองไอแลนด์ รัฐนิวยอร์ก ในเวลา 9.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯในวันจันทร์(26 ก.ย)พบว่า ค่าสุกลเงินเปโซของเม็กซิโกขยับขึ้นทันทีไม่ต่ำกว่า 2%ต่อสกุลดอลลาร์ ซึ่งทำให้สื่อสหรัฐฯชี้ว่า ผลการดีเบตในคืนที่ผ่านมานั้นไม่ใช่ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่เป็นผู้ชนะ
และ CNN ยังรายงานต่อว่า ก่อนหน้านี้ไม่กี่สัปดาห์ ค่าเงินสกุลเปโซแกว่งตัวในทิศทางตรงกันข้ามกับผลโพลความนิยมของทรัมป์มาโดยตลอด ที่พบว่าทรัมป์มีความนิยมเพิ่มขึ้น ส่งผลต่อค่าเงินเปโซอย่างจัง ทำให้สกุลเงินเปโซตกไปอยู่ระดับต่ำสุดเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ก่อนหน้าศึกดีเบตในวันจันทร์(26 ก.ย)
แต่กระนั้นสื่อสหรัฐฯชี้ว่า เป็นที่น่าทึ่งที่พบว่า การเคลื่อนไหวของสกุลเงินเปโซเม็กซิโกถีบตัวขึ้นในช่วงระหว่างการดีเบตของทรัมป์และฮิลลารี คลินตัน ตัวแทนผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต เป็นปฎิกริยาทางตรงต่อโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ดูเหมือนว่าด้อยกว่าคู่แข่งบนเวทีประชันฝีปาห อีฮาบ ซาลิบ(Ihab Salib) หัวหน้าหน่วยงานรายได้คงที่นานาชาติ เฟเดอเรเต็ด อินเวสเตอร์ส(Federated Investors)ให้ความเห็น และนอกจากนี้จากผลโพลสำรวจเกี่ยวกับดีเบตของสำนัก CNN/ORC ที่ได้รวบรวมความเห็นของผู้ชมการประชันนโยบายการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ถูกเผยแพร่ผลสำรวจหลังเสร็จสิ้นดีเบตพบว่า มีผู้ชมจำนวนถึง 62% สนับสนุนคลินตัน และผู้ชมจำนวน 27% สนับสนุนทรัมป์
และนอกจากโพลของ CNN/ORC แล้ว สื่อ VOX รายงานเพิ่มเติมในจุดนี้ต่อว่า ผลสำรวจการดีเบตของ Public Policy Polling ต่อผู้ชมพบว่า มีจำนวนถึง 51% ของผู้ตอบแบบสอบถามคิดว่า คลินตันเป็นฝ่ายมีชัย และอีก 40% คิดว่า ทรัมป์ชนะการดีเบตนัดแรก
นอกจากนี้ผลสำรวจผลการดีเบตของกลุ่มโฟกัสกรุ๊ปโดยสำนัก CNN จากผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนที่ยังไม่ได้ตัดสินใจในรัฐฟลอริดาจำนวน 20 คนพบว่า มีจำนวนถึง 18 คนลงความเห็นหลังจากรับชมการดีเบตแล้วให้คลินตันชนะ ในขณะที่อีก 2 คนให้ทรัมป์เป็นฝ่ายมีชัย ซึ่งสอดคล้องกับผลโพลแบบกลุ่มโฟกัสกรุ๊ปที่จัดโดย แฟรงก์ ลันต์ซ(Frank Luntz)นักวิจัยโพลพรรครีพับลิกันในการสำรวจผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนในรัฐเพนซิลเวเนียพบว่า มีผู้มีสิทธิ์จำนวนล้นหลามต่างชี้ว่า คลินตันเป็นฝ่ายชนะการดีเบต
และ CNN รายงานต่ออีกว่า อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ได้ให้ความเห็นกับทางสื่อเปิดเผยความรู้สึกหลังจากเสร็จสิ้นแล้วว่า “ผลการดีเบตออกมาดีกว่าที่ผมคาดคิดไว้แต่แรกเสียอีก” และในภายหลังในการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์ในเช้าวันอังคาร(27 ก.ย) ทรัมป์กล่าวยืนยันว่า เขาเชื่อว่าเขาเป็นฝ่ายชนะการดีเบต และยังอ้างต่อว่ามีโพลหลายสำนักระบุว่าโดนัลด์ ทรัมป์เป็นผู้ชนะยกเว้นโพล CNN ที่ทรัมป์ระบุว่าเป็นโพลสำนักพรรคเดโมแครต
ทั้งนี้พบว่าการเคลื่อนไหวอย่างแรงของค่าสุกลเงินเปโซเม็กซิโกในช่วงระยะที่ผ่านมา เนื่องมาจากกระแสของความกลัวของบรรดานักลงทุนต่างๆต่อความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีระหว่างสหรัฐฯและเม็กซิโกทั้งในด้านเศรษฐกิจและการเมืองที่อาจอยู่ในขั้นเลวร้ายหากว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกันเกิดสามารถพลิกกลับมาคว้าชัยได้สำเร็จ ซึ่งเป็นทรัมป์ที่ได้เคยเสนอแผนการต่อต้านผู้อพยพด้วยการสร้างกำแพงขนาดยักษ์กั้นระหว่างพรมแดนทางทิศใต้ของอเมริกาและเม็กซิโก
แต่อย่างไรก็ตาม ซาลิบชี้ต่อว่า เชื่อว่าค่าสกุลเงินเปโซเม็กซิโกจะยังคงผันผวนต่อไปตราบเท่าที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯยังไม่เสร็จสิ้น
CNNชี้ว่า กระนั้นดูเหมือนตลาดการเงินได้เคยทำนายผิดพลาดถึงผลการตัดสินใจของผู้ลงคะแนนในอดีตมาแล้ว เป็นต้นว่า การลงประชามติประกาศแยกตัวอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป BREXIT และถึงแม้ว่าจะมีการขึ้นอย่างก้าวกระโดดของค่าสุกลเงินเปโซเม็กซิโกในวันจันทร์(26 ก.ย)แต่ทว่า เงินเปโซยังคงต่ำกว่า 13% นับตั้งแต่ต้นปีนี้
นอกเหนือจากสกุลเงินเปโซเม็กซิโกแล้ว ยังพบว่าสกุลเงินดอลลาร์แคนาดายังไต่ขึ้น 0.7% ต่อดอลลาร์ในช่วงระหว่างการดีเบตของตัวแทนผู้สมัครอีกด้วย
ทั้งนี้กระแสกลัวทรัมป์ไม่ใช่เป็นเพียงปัจจัยเดียวที่ส่งผลกระทบต่อค่าเงินเปโซเม็กซิโก โดยมีผู้เชี่ยวชาญจำนวนหนึ่งได้วิเคราะห์ว่า เป็นเพราะเศรษฐกิจเม็กซิโกหดตัวในช่วงไตรมาสที่ 2 เป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี และการผลิตภาคอุตสาหกรรมเม็กซิโกตกลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา รวมไปถึงรัฐบาลเม็กซิโกได้ประกาศปรับลดการใช้จ่ายในหน้าร้อนปีนี้ และราคาน้ำมัน ซึ่งถือเป็นสินค้าคอมโมดิตีหลักของประเทศ ยังคงมีราคาต่ำ
ซึ่งการประกาศของสื่อ CNN นั้นสอดคล้องกับการวิเคราะห์ของหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ ที่ได้สรุปว่า ผู้ชนะการดีเบตประชันนโยบายบริหารสหรัฐฯระหว่างคลินตันและทรัมป์นั้นพบว่า ***ฮิลลารี คลินตันเป็นฝ่ายมีชัย*** โดยทางวอชิงตันโพสต์ได้ให้ความเห็นว่า ถึงแม้ว่าในคืนวันจันทร์(26 ก.ย)จะไม่ใช่คืนที่ดีที่สุดของคลินตัน แต่ทว่าเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่ง โดนัลด์ ทรัมป์ แล้วพบว่า คลินตันทำหน้าที่ได้ดีกว่ามาก เธอแสดงให้เห็นถึงการเตรียมความพร้อมมาอย่างดี และการใช้ข้อมูลและหลักฐานที่พิสูจน์ได้ไม่เฉพาะแต่สนับสนุนนโยบายและความเห็นของเธอ แต่ยังสามารถใช้เป็นอาวุธกลับไปเล่นงานคู่ต่อสู้เช่น ทรัมป์ ได้อย่างชะงัก อาทิเช่น ในประเด็นการไม่เปิดเผยรายงานการเสียภาษีของทรัมป์ ที่ทำให้ทรัมปต้องกล่าวโต้อย่างวกวนไปมา
โดยในประเด็นนี้ คลินตันได้ระบุว่า สาเหตุที่ทรัมป์ไม่ยอมเปิดเผยรายงานการเสียภาษีเหมือนเช่นผู้สมัครรายอื่นๆในอดีตอาจเป็นเพราะ ทรัมป์อาจจะไม่ได้ร่ำรวยอย่างได้อ้างไว้ต่อสาธารณะ หรือ ทรัมป์อาจจะไม่ได้บริจาคให้กับการกุศลต่างๆ หรืออาจเป็นไปได้ว่า ทรัมป์อาจจะไม่ได้เสียภาษีให้กับรัฐบาลสหรัฐฯ
และในประเด็นอีเมลเซิร์ฟเวอร์ฉาวที่ทรัมป์ได้หยิบยกขึ้น แต่กลับพบว่าคลินตันสามารถกล่าวและแสดงการขออภัยได้อย่างไม่เป็นที่สงสัย รวมไปถึงยังสามารถดำเนินการดีเบตต่อได้อย่างไม่ติดขัด ซึ่งจากจุดนี้วอชิงตันโพสต์ชี้ว่า เป็นจุดตายที่ชี้ขาดว่า ฮิลลารี คลินตัน ชนะการดีเบตรอบแรก
และในส่วนโดนัลด์ ทรัมป์ ที่กลายเป็นผู้แพ้ในค่ำคืนวานนี้ หนังสือพิมพ์สหรัฐฯระบุว่า การแสดงออกของทรัมป์บนเวทีดีเบตชี้ให้เห็นว่า เขาไม่ได้เตรียมตัวมาอย่างดีเมื่อเทียบกับคู่แข่งที่มีทั้งประสบการณ์ในการทำงานระดับระดับรัฐบาลและระดับนานาชาติ เช่น คลินตัน ซึ่งในรายการทรัมป์ไม่ได้แสดงให้ผู้ชมเห็นถึงแผนการนโยบายต่างๆเป็นต้นว่า แผนการต่อต้านกลุ่มก่อการร้าย IS ออกมาเป็นรูปธรรม และทำให้นักจัดรายงานวิเคราะห์การเมือง ชัค ท็อดด์ ได้ให้ความเห็นอย่างหงุดหงิดผ่านรายการคุยข่าวยามเช้า มอร์นิงโจ ทางสถานี MSNBC ในเช้าวันนี้(27 ก.ย)ว่า ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกันไม่มีนโยบายอย่างเป็นรูปธรรมมานำเสนอแก่ผู้ชม และไม่ได้ให้อะไรใหม่ต่อผู้สนับสนุนของเขา
และนอกจากนี้วอชิงตันโพสต์เพิ่มเติมว่า ดูเหมือนว่าทรัมป์ได้แสดงให้ผู้ชมเห็นว่า เขาต้องพยายามอย่างหนักในการต้องตอบคำถามถึงในสิ่งที่เขาทราบอยู่แล้วว่าจะต้องถูกหยิบยกเป็นประเด็นบนเวทีดีเบต นอกจากนี้ยังพบว่า คำแก้ตัวซ้ำซากการไม่ยอมเปิดเผยรายงานการเสียภาษีของทรัมป์ไม่ได้ช่วยให้เขาได้รับคะแนนเพิ่มมากขึ้น
และส่วนของประเด็นสงครามอิรักต่อคำถามถึงจุดยืนของโดนัลด์ ทรัมป์ในการสนับสนุนนั้น สื่อหนังสือพิมพ์สหรัฐฯชี้ว่า เป็นการแสดงการใช้คารมของทรัมป์เพื่อเอาชนะสิ่งที่เขาได้เคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้ และกลายเป็นข้อเท็จจริงที่ทำให้ทั้งคลินตัน และผู้ดำเนินรายการจากสถานีโทรทัศน์ MSNBC เลสเตอร์ โฮลต์( Lester Holt) นำมาเป็นประเด็นในการต้อนทรัมป์จนมุม ซึ่งทำให้สื่อวอชิงตันโพสต์สรุปว่า ทรัมป์ไม่สามารถแสดงเหตุผลเพื่อโน้มน้าวผู้ชมในประเด็นนี้ได้
นอกจากนี้ ส่วนในประเด็นความเป็นนักดีเบตมืออาชีพ หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ระบุต่อว่า ทรัมป์ได้แสดงสิ่งที่ไม่ควรกระทำออกมา เป็นต้นว่า ขัดจังหวะคู่แข่งเป็นระยะๆ รวมไปถึงการตะโกนใส่หน้าคลินตันในระหว่างทีเธอกำลังอธิบาย โดยเขาตะโกนคำว่า “ไม่เป็นความจริง” ออกมา
วอชิงตันโพสต์ยังได้วิจารณ์เลยไปถึงโฮลต์ผู้ดำเนินการดีเบตรอบแรกวันจันทร์(26 ก.ย)ว่า โฮลต์ไม่ทำการบ้านมาในการตรวจสอบข้อเท็จจริงหรือ FACT CHECK กับโดนัลด์ ทรัมป์ อย่างเพียงพอถึงสิ่งที่เขาได้ประกาศบนเวทีนั้นขัดแย้งกับข้อเท็จจริงที่ได้เกิดขึ้นหรือไม่ ซึ่งเป็นที่ทราบดีว่า เจ้าพ่อเรียลลิตีสหรัฐฯและเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์มักจะกล่าวกลับไปกลับมาในหลายประเด็นขัดแย้งกับสิ่งที่เขาได้เคยกล่าวไว้ในอดีต หรือขัดแย้งต่อเหตุการณ์จริงที่ได้เคยเกิดขึ้น และในประเด็นที่สอง ที่สื่อวอชิงตันโพสต์ชี้ว่า บางช่วงเวลาดูเหมือน ผู้ดำเนินรายการจากสถานีโทรทัศน์ MSNBC “หายตัวไปจากเวทีการดีเบต” ซึ่งโฮลต์ได้ถูกวิจารณ์ว่าเล่นบท Passive ในการดำเนินดีเบตครั้งล่าสุด