ยาฮูนิวส์ - คนขับและผู้โดยสาร 2 คนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลจากอาการสำลักควัน ส่วนคนอื่นๆหลบหนีออกมาโดยไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ หลังเกิดเหตุรถบัสไฟลุกท่วมบนสะพานฮาร์เบอร์ในเมืองซิดนีย์ ของออสเตรเลีย ในชั่วโมงเร่งด่วนช่วงบ่ายวันพฤหัสบดี(15ก.ย.)
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเผยว่ามีคนอยู่บนรถ 30 คนในตอนที่รถบัสโดยสารเกิดไฟลุกไหม้ ที่มิลสัน พอยต์ ในช่วงบ่ายวันพฤหัสบดี(15ก.ย.) ส่งผลให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก
ทุกเลนที่มุ่งหน้าทางเหนือถูกปิด ท่ามกลางเปลวไฟและกลุ่มควันที่ลอยพวงพุ่งจากสะพานขึ้นสู่ท้องฟ้า ขณะที่เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการควบคุมเพลิง และต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมง ก่อนจะดับไฟได้สนิทตอนเวลาประมาณ 17.30น.(ตามเวลาท้องถิ่น)
คนขับวัย 35 ปีได้รับการยกย่องที่คิดเร็วทำเร็วและดำเนินการช่วยเหลือผู้โดยสารโดยไม่เห็นแก่ตัว ทั้งนี้เขาและผู้หญิง 2 คน อายุ 24 กับ 48 ปี ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลรอยัล นอร์ท ชอร์ จากอาการสำลักควันเล็กน้อย และตอนนี้อาการทรงตัว
"หลังจากพบว่าเกิดไฟไหม้ เขาลงมือทำในทันทีและในใจของเขาคิดเพียงอย่างเดียวก็คือความปลอดภัยของพวกผู้โดยสารบนรถบัส" แอนดรูว์ คอนสแตนซ์ รัฐมนตรีคมนาคมของรัฐนิวเซาท์เวลส์ บอกกับผู้สื่อข่าวในซิดนีย์
"คนขับลงจากรถบัส เพื่อไปตรวจสอบบริเวณห้องเครื่อง แต่ตัดสินใจดำเนินการทันทีโดยมีเป้าหมายลำดับแรกคือความปลอดภัยของผู้โดยสาร" รัฐมนตรีคมนาคมกล่าว
เบื้องต้นสาเหตุของเหตุไฟไหม้ของรถบัสอายุ 20 ปีคันนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัด และเวลานี้สำนักงานความปลอดภัยด้านการขนส่งกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการสืบสวน "แน่นอนว่ารูปแบบของไฟไหม้และลักษณะของมัน เป็นอะไรที่ไม่น่ายินดีนัก เมื่อดูไฟที่ลุกไหม้แล้ว มันน่าช็อคอย่างยิ่ง" คอนสแตนซ์กล่าว
รถลากคันหนึ่งถูกส่งเข้ามานำซากไหม้เกรียมของรถบัสลงไปจากสะพานตอนเวลา 18.30น. ขณะที่พบเห็นรถติดขัดยาวเหยียดกว่า 8 กิโลเมตร ก่อนที่ถนนหลายเลนจะเริ่มกลับมาเปิดให้สัญจรอีกครั้ง
ผู้ขับขี่ได้รับคำแนะนำให้เลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นๆ ด้วยคาดหมายว่าจะประสบปัญหาล่าช้าอย่างมากในทุกเส้นทางที่มุ่งหน้าสู่ถนนสายหลักอันพลุกพล่าน ขณะเดียวกันผู้โดยสารระบบขนส่งสาธารณะก็ได้รับคำชี้แนะให้ใช้รถไฟหรือเรือเฟอร์รีแทน เนื่องจากรถบัสที่มุ่งหน้าเข้าสู่เมืองสิ้นสุดเส้นทางแค่นอร์ท ซิดนีย์ เท่านั้น