เอเอฟพี - ตำรวจฝรั่งเศสจับกุมผู้ต้องสงสัยเพิ่มอีก 2 คนเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา (7 ก.ย.) หลังมีการพบรถยนต์ต้องสงสัยที่อัดแน่นไปด้วยถังแก๊สถึง 6 ถัง ถูกนำมาจอดใกล้ๆ มหาวิหารโนตร์ดามในกรุงปารีส
ขณะนี้มีผู้ต้องสงสัย 4 รายที่ถูกตำรวจเมืองน้ำหอมควบคุมตัวเกี่ยวกับกรณีรถเก๋งเปอร์โยต์ 607 ไม่มีแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งพนักงานบาร์คนหนึ่งแจ้งว่าถูกนำมาจอดไว้บริเวณสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังตั้งแต่สุดสัปดาห์ที่แล้ว
รัฐบาลฝรั่งเศสได้ใช้มาตรการเฝ้าระวังขั้นสูงเพื่อสกัดกั้นแผนของพวกนักรบอิสลามิสต์ที่ได้ลงมือโจมตียุโรปอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเหตุวินาศกรรมกรุงปารีสเมื่อวันที่ 13 พ.ย.ปีที่แล้ว ซึ่งมือปืนและมือระเบิดฆ่าตัวตายจากกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ได้สังหารคนบริสุทธิ์ไปถึง 130 คน
แหล่งข่าวตำรวจเปิดเผยว่า ผู้ต้องสงสัย 2 คนหลังถูกจับใกล้ๆ กับเมืองมอนตาร์กีส (Montargis) ซึ่งห่างจากกรุงปารีสไปทางใต้ราว 110 กิโลเมตร ส่วนผู้ต้องสงสัยคู่แรกถูกจับได้ที่ปั๊มน้ำมันบนถนนสายหนึ่งในภาคใต้ของฝรั่งเศส และเป็นบุคคลที่หน่วยข่าวกรองใส่ชื่อไว้ในบัญชีเฝ้าระวังว่าอาจเป็นพวกหัวรุนแรง
เจ้าของรถยนต์เปอร์โยต์ซึ่งตำรวจทราบว่ามีประวัติเผยแพร่แนวคิดอิสลามิสต์ก็ถูกควบคุมตัวไปสอบสวนเช่นกัน ทว่าได้รับการปล่อยตัวในช่วงเย็นวันอังคาร (6)
ตำรวจอยู่ระหว่างติดตามตัวบุตรสาวเจ้าของรถ ซึ่งเขาบอกกับพนักงานสอบสวนว่ามีแนวคิดสุดโต่ง
พนักงานประจำบาร์แห่งหนึ่งใกล้ๆ กับวิหารโนตร์ดามได้โทรแจ้งตำรวจเมื่อวันอาทิตย์ (4) หลังสังเกตเห็นว่ามีถังแก๊สอยู่ที่เบาะหลังของรถยนต์คันดังกล่าว ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่พบว่าเป็นเพียงถังเปล่า ทว่าที่ท้ายรถยังมีถังซึ่งบรรจุแก๊สเต็มอยู่อีกถึง 5 ถัง
จากการตรวจสอบไม่พบตัวจุดชนวนระเบิดภายในรถ
จากภาพถ่ายพบว่า กระโปรงท้ายของรถยนต์สีเงินเมทัลลิคคันนี้ถูกเปิดออก และถังแก๊สถูกนำออกมาวางไว้บนพื้นถนนที่ไม่มีผู้คนจอแจ
มหาวิหารโนตร์ดามเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของปารีส และดึงดูดผู้คนให้แวะมาเยี่ยมเยือนถึงปีละ 13 ล้านคน
แบร์นาร์ด คาเซเนิฟ รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยฝรั่งเศส แถลงเมื่อวันพุธ (7) ว่า ตำรวจยังไม่ทราบแรงจูงใจของผู้ต้องสงสัยกลุ่มนี้
วันนี้ (8) ประธานาธิบดี ฟรองซัวส์ ออลลองด์ แห่งฝรั่งเศส มีกำหนดการกล่าวปาฐกถาว่าด้วยเรื่องประชาธิปไตยกับลัทธิก่อการร้าย หลังเกิดเหตุชายหัวรุนแรงขับรถบรรทุกพุ่งเข้าใส่ฝูงชนกลางงานวันชาติที่เมืองนีซ (Nice) จนมีผู้เสียชีวิตไปถึง 86 รายเมื่อเดือน ก.ค.
กลุ่มไอเอสอ้างว่าผู้ที่ก่อเหตุเป็นหนึ่งในบรรดาทหารของตน
อีกไม่ถึง 2 สัปดาห์ต่อมา นักรบญิฮาดวัยรุ่น 2 คนก็ได้บุกเข้าไปใช้มีดปาดคอบาทหลวงชราเสียชีวิตคาโบสถ์ที่เมืองรูอ็อง (Rouen)
พาทริก กัลวาร์ ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรอง DGSI ของฝรั่งเศสได้เตือนไว้เมื่อเดือน พ.ค.ว่า ผู้ก่อการร้ายอาจหันมาใช้ “วิธีโจมตีแบบใหม่” โดยนำระเบิดไปวางทิ้งไว้ตามสถานที่สำคัญๆ ที่มีคนพลุกพล่าน
เจ้าหน้าที่ความมั่นคงฝรั่งเศสมีความกังวลเป็นพิเศษเกี่ยวกับบรรดานักรบหัวรุนแรงที่เดินทางกลับมาบ้านเกิด หลังร่วมต่อสู้กับไอเอสในซีเรีย
มีข้อมูลจากอัยการว่า เวลานี้มีนักรบสัญชาติฝรั่งเศสต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับไอเอสในซีเรียมากกว่า 700 คน
