เอเอฟพี - แม้จะปากร้าย ก่อความขุ่นเคืองระหว่างประเทศ และทะเลาะเบาะแว้งกับประธานาธิบดี บารัค โอบามาแห่งสหรัฐฯ อย่างเปิดเผย แต่นายโรดริโก ดูเตอร์เต คือนักการเมืองที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในฟิลิปปินส์ และยังแผ่วงกว้างออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ด้วยพบว่าเหล่าคณะผู้แทนจากชาติสมาชิกอาเซียนต่างรุมขอถ่ายเซลฟีกับประธานาธิบดีรายนี้กันอย่างล้นหลาม
ในขณะที่นายดูเตอร์เตเพิ่งเข้าสู่ช่วงเวลา 3 เดือนแรกแห่งการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีที่มีวาระ 6 ปี ฟิลิปปินส์ต้องเปียกโชกไปด้วยเลือดจากมาตรการทำสงครามต่อต้านยาเสพติดอันโหดร้าย ที่ได้เห็นตำรวจและมือสังหารในเงามืดเข่นฆ่าผู้ต้องสงสัยคดียาเสพติดไปเกือบ 3,000 ราย
อย่างไรก็ตาม คะแนนนิยมของนายดูเตอร์เต วัย 71 ปี กลับพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ด้วยผู้นำปากร้ายและอารมณ์เสียง่ายตัวพ่อรายนี้ไม่สะทกสะท้านต่อประเด็นถกเถียงต่างๆ นานา ในนั้นรวมถึงการด่าสหประชาชาติและประธานาธิบดีสหรัฐฯ ด้วยถ้อยคำหยาบคาย โดยเฉพาะเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาเขาเรียกโอบามาว่า “ลูกกะหรี่”
พวกนักวิจารณ์บอกว่านายดูเตอร์เตกำลังกลายเป็นเผด็จการ แต่ประชาชน 16 ล้านคนโหวตเลือกอดีตอัยการรัฐรายนี้เข้าสู่ตำแหน่ง ในชัยชนะถล่มทลายท่ามกลางกระแสความรังเกียจเหล่านักการเมืองและประชาธิปไตยที่เต็มไปด้วยการคอร์รัปชัน
“บางทีเขาอาจพูดในสิ่งที่คนทั่วไปจะไม่พูด เพราะพวกเขากลัวหรือไม่ก็รู้สึกอาย” อันตนิโอ คอนเตรราส นักรัฐศาสตร์บอกกับเอเอฟพี
ส่วนเอิร์ล พาร์เรโน จากสถาบันวิจัยปฏิรูปการเมืองและเลือกตั้งในมะลิลา ระบุว่า “มันยากที่จะอธิบาย มันเป็นเรื่องของความเป็นลูกผู้ชาย” พร้อมชี้ว่านายดูเตอร์เตเป็นตัวแทนของการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริงที่คนจำนวนมากต้องการเห็น “แม้เขาจะทำพลาด พูดจาแดกดัน แต่สิ่งที่ประชาชนต้องการที่แท้จริงคือให้โอกาสเขาทำอะไรบางอย่างที่จะส่งผลกระทบต่อชีวิตของพวกเขา”
ความเห็นดังกล่าวสะท้อนความคิดของเออร์วิง เดลา ครูซ ผู้จัดการไอทีรายหนึ่งที่ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีว่า “โอเค ผมไม่ชอบทัศนคติของเขา คำสบถ อาการเหมือนผู้หญิง และคุณสมบัติด้านลบทั้งหมดของเขา แต่สิ่งที่เขาทำและสิ่งที่เขาจะทำสามารถกลบทุกอย่าง” ชายวัย 39 ปีกล่าว “เขาโปร่งใส ไม่ได้สร้างภาพ เขาเป็นตัวแทนของคนทั่วไป และผมรู้สึกปลอดภัยขึ้น”
พาร์เรโนบอกว่า ประชาชนฟิลิปปินส์ให้การสนับสนุนมาตรการปราบปรามยาเสพติดของดูเตอร์เต ไม่ใช่เพราะพวกเขาไร้ความรู้ด้านสิทธิต่างๆ แต่พวกเขามีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของตนเองมากกว่า
ผลสำรวจของพัลส์ เอเชีย (Pulse Asia) ซึ่งเป็นสำนักสำรวจอิสระในมะนิลา พบว่ามีชาวฟิลิปปินส์มากถึง 91 เปอร์เซ็นต์ที่ให้การสนับสนุนนายดูเตอร์เต ในการสำรวจหนสุดท้ายเมื่อเดือนกรกฎาคม หรือราว 1 เดือนกว่าๆ หลังจากเขาชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทลายในเดือนพฤษภาคม ด้วยคะแนนเสียง 38 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ไม่มีการสำรวจอื่นๆ เลยนับตั้งแต่นั้น
แม้กลุ่มสิทธิมนุษยชน ผู้นำโบสถ์ในชาติที่มีชาวคาทอลิกเป็นคนส่วนใหญ่ และ ส.ส.บางส่วนจะร่วมกับสหรัฐฯ และสหประชาชาติออกมาประณามการสังหารโดยศาลเตี้ย แต่ดูเหมือนความนิยมหรือชื่อเสียงของนายดูเตอร์เตจะแพร่ขยายออกไปนอกเขตแดนของฟิลิปปินส์แล้ว ระหว่างที่เขาเดินทางเยือนต่างประเทศเป็นครั้งแรกเพื่อเข้าร่วมประชุมซัมมิตที่ลาวในสัปดาห์นี้
มาร์ติน อันดานาร์ โฆษกประธานาธิบดีรายนี้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวในวันพุธ (7 ก.ย.) ว่ารัฐมนตรีต่างประเทศของบางชาติ เช่นเดียวกับเหล่าคณะผู้แทนชาติต่างๆ ณ ที่ประชุมซัมมิตอาเซียน พากันรุมขอถ่ายเซลฟีกับผู้นำรายนี้ “แม้มีประเด็นภาษาที่มีสีสันที่เขาใช้ แต่อาเซียนเข้าใจดี และเข้าใจความรู้สึกเขาดี” เออร์เนสโต อเบลลา โฆษกอีกคนของดูเตอร์เตกล่าว