รอยเตอร์ - ทีมกู้ภัยเร่งมือเข้าช่วยผู้ประสบภัยที่ร้องโหยหวนรอความช่วยเหลืออยู่ใต้เศษซากอาคารในเมืองต่างๆ แถบเทือกเขาทางภาคกลางของอิตาลี ที่พังถล่มจากพลานุภาพของแผ่นดินไหว 6.2 ระดับตื้นเมื่อวันพุธ (24 ส.ค.) ขณะที่นายกรัฐมนตรีแดนมะกะโรนีระบุยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดขยับขึ้นไปแตะอย่างน้อย 120 ศพ และชาวบ้านอีกหลายพันคนต้องไร้ที่อยู่อาศัย
แผ่นดินไหวสั่นสะเทือนในตอนเช้าตรู่ในขณะที่ชาวบ้านส่วนใหญ่ยังหลับใหล ได้เขย่าบ้านเรือนพังราบและถนนพังเสียหายในกลุ่มก้อนชุมนุมที่อยู่ห่างจากกรุงโรมไปทางตะวันออกราว 140 กิโลเมตร โดยพลานุภาพของมันสามารถรับรู้ได้ไกลถึงโบโลญญา ทางเหนือ และเนเปิล ทางใต้ของประเทศ ที่แต่ละเมืองอยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางราวๆ 220 กิโลเมตร
ครอบครัวหนึ่งซึ่งมีสมาชิก 4 คน ในนั้นเป็นเด็กชายอายุ 8 เดือน กับ 9 ขวบ ถูกฝังทั้งเป็นเมื่อบ้านของพวกเขาในเมืองอัคคูโมลีพังถล่มลงมา ทั้งนี้ ระหว่างที่หน่วยกู้ภัยกำลังอุ้มศพทารกน้อยออกมาอย่างระมัดระวังโดยใช้ผ้าห่มขนาดเล็กคลุม คุณยายของหนูน้อยได้ร้องไห้ฟูมฟายกล่าวโทษพระเจ้าที่พรากพวกเขาไปจากเธอ
ทหารและเครื่องมือหนักถูกระดมพลลงพื้นที่เกิดเหตุ ส่วนกระทรวงการคลังอนุมัติเงิน 235 ล้านยูโรในกองทุนฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย ขณะที่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงเลื่อนพิธีศาสนกิจคาทอลิกเทศนาสั่งสอน (catechesis) ในวันพุธ (24 ส.ค.) ออกไป แต่ได้ทรงนำสวดให้กับเหยื่อแผ่นดินไหวกลางจตุรัสเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กแทน และได้ทรงส่งสารแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวของผู้ที่ได้รับผลกระทบ
หน่วยกู้ภัยใช้เฮลิคอปเตอร์ดึงผู้รอดชีวิตที่ติดค้างในหมู่บ้านห่างไกลไปยังพื้นที่ปลอดภัย หลังจากหมู่บ้านเหล่านั้นถูกตัดขาดจากดินถล่มและเศษซากที่พังลงมาปิดกั้นถนน
ภาพถ่ายทางอากาศเผยให้เห็นพื้นที่ทั้งหมดของอมาตริเช ที่เพิ่งได้รับการโหวตในปีที่แล้วให้เป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่สวยงามที่สุดของอิตาลี พังราบเป็นหน้ากอง ขณะที่ผู้เสียชีวิตหรือสูญหายจำนวนมากเป็นเหล่านักท่องเที่ยว
เบื้องต้นกรมปกป้องพลเรือนแห่งชาติปรับเพิ่มยอดผู้เสียชีวิตเป็น 73 ศพ ราว 12 ชั่วโมงหลังจากเกิดแผ่นดินไหว อย่างไรก็ตาม คาดหมายว่าตัวเลขสุดท้ายน่าจะสูงกว่านี้เนื่องจากมีอีกมากที่ยังสูญหาย ขณะเดียวกัน ด้วยที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวและเข้าพักตามสถานที่ต่างๆ เป็นจำนวนมาก ทำให้เป็นเรื่องยากที่จะนับจำนวนได้
อย่างไรก็ตาม ต่อมาไม่นานนัก นายมัตเตโอ เรนซี นายกรัฐมนตรีอิตาลีก็ระบุในถ้อยแถลงว่ายอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 120 ราย และบาดเจ็บ 368 คน พร้อมเตือนว่าตัวเลขเหยื่ออาจพุ่งสูงกว่านี้
โรงพยาบาลในเมืองอมาตริเชต้องอพยพคนไข้ออกจากตัวอาคารที่ได้รับความเสียหาย และขึ้นไปอยู่บนท้องถนนเป็นการชั่วคราว “พื้นที่ราว 3 ใน 4 ของเมืองไม่เหลืออะไรอีกแล้ว” เซอร์จิโอ ปิรอสซี นายกเทศมนตรีเมืองอมาตริเชเผย “เป้าหมายในตอนนี้คือปกป้องชีวิตผู้คนให้ได้มากที่สุด เรายังได้ยินเสียงดังออกมาจากซากหักพัง เราจำเป็นต้องปกป้องชีวิตผู้คนที่นั่น” เขากล่าวพร้อมยืนยันว่าสามารถกู้ศพผู้เสียชีวิตออกมาได้แล้ว 6 ราย
ตามหมู่บ้านต่างๆ อัดแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยว เนื่องจากเวลานี้เป็นช่วงพีกสุดของการท่องเที่ยวช่วงฤดูร้อน ขณะที่นายกเทศมนตรีเผยว่าการเดินทางเข้าสู่พื้นที่ประสบภัยของหน่วยฉุกเฉินเป็นไปอย่างยากลำบาก “มีดินถล่มบนถนนเส้นหนึ่ง สะพานแห่งหนึ่งพังถล่มทับสะพานอีกแห่ง เราได้ยินเสียงร้องโหยหวนอยู่ใต้ซากหักพัง”
โฆษกของกรมป้องกันพลเรือนเผยว่า พบผู้เสียชีวิตทั้งในอมาตริเล, อัคคูโมลี และหมู่บ้านอื่นๆ ในนั้นรวมถึงเฟสคารา เดล ตรอนโต และอาร์กัวตา เดล ตรอนโต ขณะที่ในแคว้นลาซิโอและมาร์เก ที่อยู่ติดกับแคว้นอุมเบรีย ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน
สำนักงานธรณีวิทยาสหรัฐฯ วัดความรุนแรงของแผ่นดินไหวได้ 6.2 โดยมันสั่นสะเทือนใกล้เมืองนอร์เชียของอุมเบรีย ขณะที่สถาบันแผ่นดินไหวอิตาลี INGV วัดได้ 6.0 และบอกว่าศูนย์กลางของมันอยู่ไกลออกไปทางใต้กว่านั้น ติดกับอัคคูโมลีและอมาตริเช พร้อมเผยว่าในช่วง 12 ชั่วโมงหลังแผ่นดินไหวเกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาแล้วกว่า 150 ครั้ง โดยแรงสุดวัดได้ 5.5
ที่เกิดความเสียหายอย่างหนักหน่วงเนื่องจากศูนย์กลางของมันค่อนข้างตื้น อยู่ลึกลงไปใต้ดินแค่ 4 กิโลเมตร โดยแรงสั่นสะเทือนปลุกให้ชาวบ้านในกรุงโรมถึงกับสะดุ้งตื่น เฟอร์นิเจอร์สั่นไหว โคมไฟแกว่งไปมา และสัญญาณกันขโมยรถยนต์ดังสนั่นหวั่นไหวในแถบตอนกลางของอิตาลี
แผ่นดินไหวรุนแรงในอิตาลีครั้งสุดท้ายต้องย้อนกลับไปในปี 2009 ที่เมืองลากีลา ทางภาคกลางของประเทศ โดยคราวนั้นคร่าชีวิตผู้คนมากกว่า 300 ศพ
