รอยเตอร์ - มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 300 รายทางภาคตะวันออกและภาคกลางของอินเดีย และอีกกว่า 6 ล้านคนได้รับผลกระทบจากอุทกภัยเลวร้ายที่ทำให้หลายหมู่บ้านต้องจมอยู่ใต้บาดาล กระแสน้ำซัดพืชผลและถนนเสียหาย ก่อความยุ่งเหยิงแก่ระบบไฟฟ้าและโทรคมนาคม จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ในวันอังคาร (23 ส.ค.)
ฝนฤดูมรสุมที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้แม่น้ำหลายสายในนั้นรวมถึงแม่น้ำคงคาและเหล่าแม่น้ำสาขาของคงคาเอ่อล้นตลิ่ง ส่งผลให้ประชาชนต้องอพยพไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวในรัฐต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นมัธยประเทศ, พิหาร, อุตตรประเทศ, ราชสถาน และอุตตราขัณฑ์
รัฐพิหารต้องเผชิญภัยน้ำท่วมครั้งเลวร้ายที่สุดของปีนี้ โดยมีผู้เสียชีวิตเกือบ 120 ราย และอีกกว่า 5 ล้านคนได้รับผลกระทบ ขณะที่เจ้าหน้าที่ของรัฐยอมรับว่าสถานการณ์สาหัสอย่างยิ่ง
“น้ำท่วมทั่วพื้นที่ราบต่ำ บ้านเรือน และพื้นที่การเกษตร” ซาฟาร์ ราคิบ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเขตคาติหาร หนึ่งใน 24 เขตจากทั้งหมด 38 เขตของรัฐพิหารที่จมอยู่ใต้บาดาล “เราย้ายผู้คนไปยังพื้นที่สูง และจัดมอบข้าวสวย น้ำดื่ม และแผ่นพลาสติกแก่พวกเขา”
ในรัฐอุตตรประเทศที่อยู่ติดกันมีผู้เสียชีวิต 43 ราย และกว่า 1 ล้านคนได้รับผลกระทบ โรงเรียนต่างๆ ในเมืองวรานาสีและอัลลาฮาบัดต้องปิดการเรียนการสอน เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำคงคาและแม่น้ำยมุนาข้ามผ่านระดับที่เป็นอันตรายแล้ว และระดับน้ำท่วมก็สูงขึ้นเรื่อยๆ
ภาพข่าวทางสถานีโทรทัศน์เผยให้เห็นชาวบ้านจูงวัวควายเดินลุยน้ำระดับเอว บ้านที่สร้างจากโคลนและก้อนอิฐพังถล่ม และผู้คนกำลังปีนลงเรือไม้เพื่อมุ่งหน้าไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว “เราทุกคนล้วนกังวลว่าเราจะเป็นอย่างไรต่อไป เราต้องใช้ชีวิตแบบนี้มา 4 วันแล้ว เราไม่มีแม้แต่อาหารที่จะใช้กินประทังชีวิต” ชาวบ้านรายหนึ่งจากเขตบัลเลีย ในรัฐอุตตรประเทศ บอกกับเอ็นดีทีวี
ที่มัธยประเทศ ทางภาคกลางของอินเดีย มีประชาชนเกือบ 20,000 คนต้องอพยพไปอาศัยอยู่ตามศูนย์พักพิงต่างๆ หลังก่อนหน้านี้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 70 ราย บ้านเรือนกว่า 40,000 หลังได้รับความเสียหายบางส่วนหรือทั้งหลัง นับตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นฤดูมรสุมในเดือนมิถุนายน
เจ้าหน้าที่บอกว่าชาวบ้านจะได้รับอนุญาตให้กลับสู่ที่พักอาศัยเมื่อน้ำลดระดับลงแล้ว แต่กรมอุตุนิยมวิทยาของอินเดียคาดหมายว่าช่วง 2 วันข้างหน้าจะมีฝนตกลงมาเพิ่มเติมในแถบตอนกลางของประเทศ
อินเดียเผชิญกับฝนตกเป็นปกติในช่วงฤดูมรสุมระหว่างเดือนมิถุนายนถึงกันยายน ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อภาคการเกษตรอันสำคัญของประเทศ ที่คิดเป็นร้อยละ 18 ของจีดีพี และมอบงานเกือบครึ่งหนึ่งแก่ประชาชนกว่า 1,300 ล้านคนของอินเดีย
อย่างไรก็ตาม ในหลายรัฐทั่วประเทศ บ่อยครั้งที่ต้องประสบกับเหตุดินถล่มและน้ำท่วมที่ก่อความเสียหายแก่พืชผล ทำลายบ้านเรือน และทำให้ชาวบ้านจำนวนมากล้มป่วยด้วยโรคต่างๆ อย่างเช่นท้องร่วง
เจ้าหน้าที่เผยว่า น้ำที่ไหลเชี่ยวได้ทำลายคันกั้นน้ำหลายแห่งและทำนบหลายแห่งสึกหรอในบางพื้นที่ ถนนบางเส้นทางถูกตัดขาด ก่อความยากลำบากในความพยายามเข้าช่วยเหลือชาวบ้านผู้ประสบภัย
กองกำลังบรรเทาภัยพิบัติแห่งชาติอินเดีย (NDRF) ถูกส่งเข้าประจำการทั้ง 5 รัฐ และกำลังเข้าช่วยชาวบ้านมากกว่า 33,000 คนที่ติดค้างอยู่ตามหมู่บ้านต่างๆ ที่อยู่ห่างไกล นอกจากนี้แล้วยังแจกจ่ายสิ่งของบรรเทาทุกข์และมอบความช่วยเหลือทางการแพทย์แก่ผู้รอดชีวิตกว่า 9,000 คนด้วย
นายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดีแห่งอินเดียเมื่อวันจันทร์ (22 ส.ค.) เสนอมอบความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากรัฐบาลกลาง “ผมภาวนาให้ผู้คนที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมปลอดภัย รัฐบาลกลางรับประกันว่าจะให้การสนับสนุนทั้งในปฏิบัติการช่วยเหลือและบรรเทาภัย”