xs
xsm
sm
md
lg

หลังเตหะรานฉุนมอสโก “ไม่แมน-ขี้โอ่” สองประเทศก็ออกแถลงเครื่องบินรบรัสเซียหยุดใช้ฐานทัพอิหร่านเพื่อเข้าโจมตีในซีเรียแล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ภาพนิ่งจากวิดีโอที่เผยแพร่โดยกระทรวงกลาโหมรัสเซียเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2016 เปฌนภาพเครื่องบินซูคอย ซู-34 จากฐานทัพฮาเมดันของอิหร่าน กำลังทิ้งระเบิดในจังหวัดแห่งหนึ่งของซีเรีย
เอเจนซีส์ - อิหร่านแถลงในวันจันทร์ (22 ส.ค.) ว่า การให้ฝ่ายรัสเซียใช้ฐานทัพอากาศของตนแห่งหนึ่งเพื่อการเข้าถล่มโจมตีในซีเรียนั้นได้ยุติลงแล้วในขณะนี้ ทั้งนี้ไม่นานหลังจากรัฐมนตรีกลาโหมของเตหะรานวิพากษ์วิจารณ์มอสโกว่า “ไม่แมน” แถม “ขี้โอ่” จากการป่าวประกาศเรื่องการใช้ฐานทัพอากาศอิหร่านนี้

ทางด้านรัสเซียซึ่งได้ใช้ฐานทัพอากาศซาฮิด โนเจห์ ใกล้ๆ เมืองฮาเมดันแห่งนั้น เพื่อเติมน้ำมันให้แก่เครื่องบินทิ้งระเบิดของตนซึ่งกำลังเดินทางเข้าไปโจมตีเป้าหมายต่างๆ ในซีเรีย อย่างน้อยที่สุด 3 ครั้งในสัปดาห์ที่แล้ว ก็ยืนยันว่าเครื่องบินรบของรัสเซียซึ่งอยู่ในอิหร่านได้ถอนกลับแดนหมีขาวทั้งหมดแล้ว

“มันเป็นภารกิจที่ได้รับอนุญาตเป็นพิเศษ และมันก็ยุติลงแล้วสำหรับในขณะนี้ พวกเขาเข้ามาปฏิบัติการและพวกเขาก็จากไปแล้วในขณะนี้” บาหรัม กอเซมี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน แถลงต่อผู้สื่อข่าวในกรุงเตหะราน

เขาเปิดกว้างถึงความเป็นไปได้ในอนาคตที่เครื่องบินรบของรัสเซียจะทะยานขึ้นจากดินแดนอิหร่านอีก โดยกล่าวว่าเรื่องนี้จะขึ้นอยู่กับ “สถานการณ์ในภูมิภาคนี้ และขึ้นอยู่กับการอนุญาตของเรา”

ทางด้าน อีกอร์ โคนาเชนคอฟ โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซีย แถลงว่า เครื่องบินรบของรัสเซียได้ “ปฏิบัติภารกิจของพวกตนทั้งหมดแล้วอย่างประสบความสำเร็จ” และได้เดินทางเข้าสู่ดินแดนมาตุภูมิ

สำหรับเรื่องที่เครื่องบินรัสเซียจะใช้ฐานทัพในฮาเมดันของอิหร่านแห่งนี้ต่อไปหรือไม่นั้น โคนาเชนคอฟระบุในคำแถลงว่า จะเป็นไป “โดยสอดคล้องกับการทำความตกลงร่วมกันในการสู้รบปราบปรามการก่อการร้าย และโดยพิจารณาจากสถานการณ์ในซีเรีย”

ขณะที่ เลวาน ดซาการ์เยน เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำอิหร่าน แถลงว่า ไม่มีอะไรที่จะมาห้ามใช้ฐานทัพอากาศใกล้ๆ เมืองฮาเมดันนี้อีกครั้ง ทั้งนี้ ฐานทัพอากาศซาอิด โนเจห์แห่งนี้ตั้งอยู่ห่างราว 50 กิโลเมตรจากเมืองฮาเมดัน เมืองสำคัญทางภาคตะวันออกของอิหร่าน

“ถ้าผู้นำของทั้งสองประเทศของเราพิจารณาว่ามันจำเป็นและบรรลุข้อตกลงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องแล้ว มันจะมีปัญหาอะไรได้ล่ะ?” เขาระบุในคำแถลง ซึ่งกล่าวต่อไปว่า “สำหรับช่วงระยะเวลานี้ ไม่มี (ชาวรัสเซีย) เหลืออยู่ใน (ฐานทัพอากาศใกล้) ฮาเมดัน”

สัปดาห์ที่แล้ว รัสเซียประกาศว่าเข้าใช้สนามบินที่อยู่ห่างจากทางเหนือของเมืองฮาเมดันของอิหร่านราว 50 กิโลเมตรเพื่อเปิดปฏิบัติการโจมตีในซีเรีย โดยที่เจ้าหน้าที่อิหร่านออกมายืนยันเรื่องดังกล่าวในวันต่อมา

ในตอนแรกๆ อาลี ชามคอนี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติสูงสุดของอิหร่าน แสดงความคิดเห็นต้อนรับการร่วมมือ “ทางยุทธศาสตร์” กับรัสเซียเช่นนี้ ทว่าได้มีสมาชิกรัฐสภาบางคนออกมาร้องว่า เรื่องนี้น่าจะละเมิดรัฐธรรมนูญของอิหร่าน ซึ่งห้ามไม่ให้อนุญาตให้กองทัพต่างชาติใดๆ เข้ามาตั้งประจำในดินแดนประเทศอิหร่าน

ต่อมาตอนช่วงเช้าวันจันทร์ (22) พลเอก ฮอสเซน เดห์กัน รัฐมนตรีกลาโหมอิหร่านได้ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ของทางการอิหร่าน โดยเน้นย้ำว่ารัสเซียจะใช้ฐานทัพอากาศซาอิด โนเจห์ “ชั่วระยะเวลาสั้นมากและกำหนดเอาไว้ตายตัวแน่นอน เพื่อให้สอดรับกับการปฏิบัติการในซีเรีย” เขาแสดงความเห็นคราวนี้หลังจากที่ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเขาได้ตำหนิรัฐสภาอย่างรุนแรงที่กำลังตั้งคำถามเรื่องรัสเซียใช้ฐานทัพแห่งนั้น

ครั้นเมื่อถูกผู้ดำเนินรายการทางทีวีถามว่า ทำไมรัสเซียเลือกที่จะเปิดเผยเรื่องที่เข้าไปใช้ฐานทัพในอิหร่าน ขณะที่อิหร่านเองยังไม่ได้พูด

พลเอกเดห์กันก็ตอบอย่างเผ็ดร้อนว่า “ฝ่ายรัสเซียสนใจที่จะอวดว่าพวกเขาคืออภิมหาอำนาจรายหนึ่งซึ่งต้องการค้ำประกันการมีส่วนร่วมของพวกเขาในอนาคตทางการเมืองของซีเรีย และแน่นอนทีเดียวว่า ในที่นี้มีเรื่องของการโอ้อวดและ (ท่าที) ที่ไม่เป็นสุภาพบุรุษอยู่ด้วย”

รัฐมนตรีกลาโหมอิหร่านอธิบายว่า รัสเซียได้ “ตัดสินใจที่จะนำเอาเครื่องบินเข้ามามากขึ้น และเพิ่มทวีความรวดเร็วและความแม่นยำในการปฏิบัติการของตน”

“ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องเติมน้ำมัน (ให้เครื่องบินรบ) ในบริเวณใกล้กับจุดปฏิบัติการมากขึ้น นี่คือเหตุผลที่ทำไมพวกเขาใช้ฐานทัพโนเจห์ แต่แน่นอนที่สุดที่เราไม่ได้ให้พวกเขาใช้เป็นฐานทัพทางทหาร”

อีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน และโฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซียจึงทยอยออกมาแถลงอย่างสอดคล้องกันว่า รัสเซียยุติการใช้ฐานทัพอากาศซาอิด โนเจห์ และเครื่องบินรบรัสเซียก็ถอนออกจากอิหร่านหมดแล้ว

อย่างไรก็ตาม ผู้สังเกตการณ์ฝ่ายอเมริกันตั้งข้อสังเกตว่า คำให้สัมภาษณ์ของพลเอกเดห์กันบ่งชี้ว่า รัสเซียและอิหร่านตกลงกันแต่แรกว่ามอสโกจะใช้ฐานทัพอากาศในอิหร่านอย่างเงียบๆ เนื่องจากการป่าวประกาศของเครมลินมีแนวโน้มทำให้เตหะรานถูกรุมตั้งคำถามจากเพื่อนบ้านในตะวันออกกลาง ซึ่งได้ถูกอิหร่านและรัสเซียวิพากษ์วิจารณ์เรื่องเปิดฐานทัพให้ทหารอเมริกันเข้าประจำการ

ขณะเดียวกัน การยอมให้กองทหารรัสเซียเข้าประจำการซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญของอิหร่าน ยังมีแนวโน้มสร้างความขัดเคืองให้แก่ประชาชน เนื่องจากหลายคนยังจำได้ดีว่ารัสเซียเคยรุกรานและเข้ายึดครองอิหร่านร่วมกับอังกฤษในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อยึดบ่อน้ำมันและเส้นทางจัดส่งเสบียงของฝ่ายสัมพันธมิตร อย่างไรก็ดี ขณะที่อังกฤษถอนออกไป รัสเซียกลับปฏิเสธที่จะยกพลกลับ ซึ่งทำให้ถูกนานาชาติประณามเป็นครั้งแรกในปี 1946 ผ่านทางคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่เพิ่งก่อตั้งขึ้น

นักวิเคราะห์ฝ่ายอเมริกันมองว่า รัสเซียมีแผนใช้ประโยชน์จากการที่อิหร่านต้องการซื้อเครื่องบินขับไล่ ซูคอย-30 หรือติดตั้งระบบต่อต้านขีปนาวุธ เอส-300 เพื่อบีบให้เตหะรานยอมเปิดทางให้ใช้สนามบินเพื่อวัตถุประสงค์ทางเศรษฐกิจหรือการทหาร โดยการชะลอการจัดส่งระบบขีปนาวุธให้อิหร่านระหว่างที่กำลังมีการเจรจาโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของเตหะราน

อย่างไรก็ดี ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาสื่อของรัฐได้เผยแพร่ภาพประธานาธิบดี ฮัสซัน รูฮานี ที่ถ่ายใกล้ๆ กับระบบต่อต้านขีปนาวุธ บาวาร์-373 ซึ่งอิหร่านพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้มีสมรรถนะเทียบเท่าเอส-300


กำลังโหลดความคิดเห็น