ซีเอ็นเอ็น - ประธานาธิบดี เรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน ยื่นคำขาดถึงสหรัฐฯ เรียกร้องให้ส่งตัวนักการศาสนาคนดัง ที่เขาเชื่อว่าอยู่เบื้องหลังความพยายามรัฐประหารที่ล้มเหลว เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนมายังตุรกี ไม่อย่างนั้นอาจกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ
แอร์โดอัน บอกว่า ท้ายที่สุดแล้วสหรัฐฯจะต้องเลือกระหว่างความสัมพันธ์กับตุรกี หรือ นายเฟตุลเลาะห์ กูเลน อดีตพันธมิตรของนายแอร์โดอัน ซึ่งลี้ภัยในเพนซิลเวเนียมาตั้งแต่ปี 1999 ตามรายงานของสำนักข่าวอนาโดลู เมื่อวันพุธ (10 ส.ค.)
“ไม่ว่าช้าหรือเร็ว สหรัฐฯก็จำต้องเลือกระหว่างตุรกี หรือ FETO” แอร์โดอัน อ้างถึงขบวนการเคลื่อนไหวที่นำโดยกูเลน
ตุรกีได้ขอตัวนายกูเลนในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน โดยผู้แทนรายหนึ่งของสมาชิกรัฐสภา ส่งมอบกล่องเอกสารหลายสิบกล่องให้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯเพื่อสนับสนุนคำร้อง
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดี บารัค โอบามา เคยบอกว่า นักการศาสนารายนี้จะถูกส่งตัวในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนก็ต่อเมื่อเป็นผลของกระบวนการทางกฎหมายเท่านั้น และเมื่อพบว่าคำร้องขอตัวผู้ร้ายข้ามแดนมีความชอบธรรมตามกฎหมายและสนธิสัญญาที่เกี่ยวข้อง
กูเลน ยืนยันซ้ำแล้วซ้ำเล่า ว่า ตนเองไม่เกี่ยวข้องกับความพยายามรัฐประหาร และปฏิเสธหมายจับเขาที่ออกโดยทางการตุรกี
ประธานาธิบดี แอร์โดอัน บอกต่อว่า สหรัฐฯอยู่ในจุดที่ต้องเลือกในเรื่องนี้ “เราส่งเอกสารไป 85 กล่อง” เขากล่าว พร้อมทึกทักว่าสหรัฐฯจะไม่เก็บนักการศาสนารายนี้ไว้และส่งตัวเขากลับมา
ประเด็นของ นายกูเลน ยังก่อความสัมพันธ์อันตึงเครียดระหว่างอังการาและสมาชิกอื่น ๆ ของพันธมิตรนาโตด้วย
ท่ามกลางความสัมพันธ์ที่เย็นชากับวอชิงตัน เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ นายแอร์โดอัน ได้เดินทางเยือนมอสโก พบปะกับประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ส่งสัญญาณของการปรับท่าทีระหว่างสองผู้นำที่มีเรื่องบาดหมางกันนับตั้งแต่ตุรกียิงเครื่องบินรบรัสเซียตกเมื่อ 9 เดือนก่อน