เอเอฟพี - การโจมตีทางอากาศของรัสเซีย ต่อเมืองรอกเกาะห์ ที่มั่นของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในตอนเหนือของซีเรียในวันนี้ (11) คร่าชีวิตคนอย่างน้อย 30 ราย รวมถึงพลเรือน 24 ราย กลุ่มสังเกตการณ์ฯ ระบุ
กลุ่มสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในซีเรีย (Syrian Observatory for Human Rights) ระบุว่า มีการโจมตีทางอากาศ 10 ครั้ง ใส่เมืองนี้ และชานเมืองโดยรอบ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก
กลุ่มสังเกตการณ์ฯ ระบุว่า พวกเขายังยืนยันไม่ได้ว่า ผู้เสียชีวิตอีก 6 คนที่เหลือ เป็นพลเมือง หรือนักรบญิฮาดกลุ่มไอเอส
กลุ่มสังเกตการณ์ซึ่งมีฐานในอังกฤษ และอาศัยเครือข่ายแหล่งข่าวภายในซีเรีย เพื่อหาข้อมูลระบุว่า พวกเขาระบุถึงสิ่งที่เครื่องบินโจมตีตามประเภทของเครื่องบิน ตำแหน่ง รูปแบบการบิน และกระสุนที่ใช้
รัสเซียยืนยันว่า เครื่องบินขับไล่ตูโปเลฟ 6 ลำ ดำเนินการโจมตีทางอากาศรอบเมืองรอกเกาะห์ แต่ระบุว่า มันได้ทำลาย “โรงงานอาวุธเคมีในชานเมืองทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองนี้”
กระทรวงกลาโหม ระบุว่า การจู่โจมดังกล่าวยังได้ทำลายคลังเก็บอาวุธและค่ายฝึกนักรบไอเอสทางตอนเหนือ และตะวันออกเฉียงใต้ ด้วย
กระทรวงระบุว่า พวกนักรบญิฮาดได้รับ “ความเสียหายทางกายภาพอย่างหนัก” ในการโจมตีดังกล่าวและว่า “มีนักรบถูกสังหารเป็นจำนวนมาก”
การโจมตีครั้งนี้ มีขึ้นหนึ่งวันหลังจากที่กระทรวง ระบุว่า พวกเขาจะหยุดการโจมตีโดยรอบเมืองอเลปโปที่เสียหายหนักของซีเรีย เป็นเวลา 3 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปได้ การริเริ่มซึ่งองค์การสหประชาชาติ ระบุว่า ไม่เพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการของเมืองนี้
ยูเอ็นเรียกร้องการเปิดทางให้ความช่วยเหลือเข้าไปถึงเมืองอเลปโปโดยด่วน และการหยุดยิงนาน 48 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เพื่อการจัดส่งความช่วยเหลือ พร้อมเตือนว่า พลเรือนมีความเสี่ยงต่อภาวะขาดแคลนน้ำ และโรคภัยอย่างร้ายแรงในขณะที่การต่อสู้รุนแรงขึ้น
การต่อสู้ระหว่างกองกำลังรัฐบาลและกบฏในอเลปโปรุนแรงขึ้นในช่วงเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากทั้งสองฝ่ายต่างส่งกำลังเสริมเข้ามาภายใน