เอเอฟพี /เอเจนซีส์ / MGR online – ฝนที่ตกกระหน่ำตลอดทั้งคืนวันเสาร์ (6 ส.ค.) รวมถึงลมพายุกำลังแรงที่พัดถล่มในพื้นที่กรุงสโกเปีย เมืองหลวงของสาธารณรัฐมาซิโดเนีย เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 20 ราย
คำแถลงที่มีการเผยแพร่ในวันอาทิตย์ (7 ส.ค.) โดยกระทรวงสาธารณสุขของมาซิโดเนีย ระบุว่า ฝนที่ตกกระหน่ำตลอดทั้งคืนวันเสาร์ (6 ส.ค.) รวมถึงลมพายุที่มีกำลังลมแรงมากกว่า 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมงที่พัดถล่มกรุงสโกเปีย เมืองหลวงของสาธารณรัฐมาซิโดเนีย เป็นเหตุให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและเหตุดินถล่ม ที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 20 ราย
นิโกลา โทโดรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของมาซิโดเนีย ยืนยันว่า ทีมกู้ภัยและเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานบรรเทาสาธารณภัย กำลังเร่งทำงานแข่งกับเวลาเพื่อค้นหาร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม รวมถึง ภารกิจในการช่วยเหลือเหล่าผู้ประสบภัยที่รอดชีวิตจากภัยพิบัติครั้งเลวร้ายหนนี้
ด้านเจ้าหน้าที่หน่วยงานด้านอุตุนิยมวิทยาของมาซิโดเนีย เปิดเผยว่า ปริมาณฝนที่ตกกระหน่ำใส่กรุงสโกเปียราว 2 ชั่วโมงเมื่อคืนวันเสาร์ (6) นั้น สามารถเทียบได้กับค่าเฉลี่ยของปริมาณน้ำฝนที่เคยตกของตลอดทั้งเดือนสิงหาคมของทุกปี
ด้านสื่อท้องถิ่นของมาซิโดเนียรายงานว่า นอกเหนือจากผู้เสียชีวิตที่มีจำนวนอย่างน้อย 20 รายแล้ว ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากภัยพิบัติทางธรรมชาติคราวนี้อีกกว่า 100 คนซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กและเยาวชน ขณะที่แหล่งข่าวที่เป็นเจ้าหน้าที่ภายในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งเปิดเผยกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า มีเด็กหญิงวัย 8 ปีรายหนึ่งรวมอยู่ในกลุ่มผู้เสียชีวิตด้วยเช่นเดียวกัน
จนถึงขณะนี้ รัฐบาลมาซิโดเนียได้ประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วพื้นที่ในกรุงสโกเปีย รวมถึงหลายพื้นที่ของเมืองเตโตโว ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ
“นี่คือหายนะอย่างแท้จริง เราไม่เคยเผชิญกับภัยพิบัติ ที่เลวร้ายเช่นนี้มาก่อน”โกเซ ตรายานอฟสกี นายกเทศมนตรีกรุงสโกเปียกล่าวต่อผู้สื่อข่าว ท่ามกลางรายงานที่ระบุว่า หลายพื้นที่ในเมืองหลวงของมาซิโดเนียเวลานี้ ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1.5 เมตร ซึ่งระดับน้ำท่วมที่สูงนี้ กลายเป็นอุปสรรคสำคัญ ต่อความพยายามช่วยเหลือผู้ประสบภัยของเหล่าเจ้าหน้าที่