อินเตอร์เนชันแนลบิสเนสไทม์ส/สเตรตไทม์ส - สหราชอาณาจักร และ สิงคโปร์ เป็น 2 ชาติล่าสุดที่เรียกร้องพลเมืองที่พำนักอยู่ในประเทศไทย ให้อยู่ในความระมัดระวัง ระบุ ศึกประชามติร่างรัฐธรรมนูญในวันอาทิตย์ (7 ส.ค.) อาจกระพือความตึงเครียดทางการเมืองที่เคยเลี้ยวเข้าสู่ความรุนแรงมาแล้ว สองวันหลังจากสหรัฐฯได้ออกประกาศแบบเดียวกัน
ในขณะที่คนไทยหลายร้อยคนจะเข้าคู่หาในวันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม เพื่อโหวตว่าจะยอมรับรัฐธรรมนูญที่ร่างโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หรือไม่
ทางกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักร ได้ออกประกาศเตือนด้านการท่องเที่ยวถึงพลเมืองสหราชอาณาจักรในกรุงเทพฯ เรียกร้องให้ระมัดระวังเหตุชุมนุมทางการเมืองก่อนถึงวันลงประชามติ โดยชี้ให้เห็นว่า การประท้วงในกรุงเทพฯ เมื่อปี 2014 เคยเลี้ยวเข้าสู่ความรุนแรง และสถานการณ์แบบเดียวกันอาจเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
โฆษกของกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักร ระบุว่า “ความตึงเครียดทางการเมืองดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นทั้งก่อนและระหว่างการลงประชามติ คุณควรหลีกเลี่ยงที่ชุมนุมทางการเมือง และจับตาคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น และสื่อมวลชนท้องถิ่น ขณะที่ข้อจำกัดต่าง ๆ อย่างเช่น การขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็อาจมีการบังคับใช้ในช่วงเวลาดังกล่าวเช่นกัน”
นอกจากนี้แล้ว รัฐบาลสหราชอาณาจักร ยังเตือนพลเมืองในไทย ด้วยว่า มีสื่อมวลชนหลายแห่งจอดำและเว็บไซต์ อินเทอร์เน็ตบางส่วนยังคงถูกบล็อก ดังนั้น จึงควรระมัดระวังในการแสดงความคิดเห็น การวิพากษ์วิจารณ์คณะรัฐประหารเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และคุณควรระมัดระวังในการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองในที่สาธารณะ”
ก่อนหน้านี้ ในวันพุธ (3 ส.ค.) สถานทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงเทพฯ ได้เตือนพลเมืองเกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมือง และย้ำว่า คสช. มีคำสั่งห้ามชุมนุมทางการเมือง เข้มงวดกับสื่อมวลชน กวดขันด้านเสรีภาพการแสดงออกและเสรีภาพการรวมตัวกัน ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศอเมริกา ก็ได้เตือนพลเมืองต่อการแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองเกี่ยวกับ คสช.
นอกจากสหราชอาณาจักรแล้ว สิงคโปร์ก็เป็นอีกชาติที่ออกประกาศเตือนพลเมือง ถึงสถานการณ์ในไทยในวันศุกร์ (5 ส.ค.) โดยทางกระทรวงการต่างประเทศแดนลอดช่อง แนะนำพลเมืองให้หลีกเลี่ยงที่ชุมนุมทางการเมือง ระหว่างที่ไทยจัดลงประชามติรัฐธรรมนูญในวันอาทิตย์ (7 ส.ค.) นี้
ในประกาศแจ้งเตือนด้านการท่องเที่ยว กระทรวงการต่างประเทศสิงคโปร์ ยังแนะนำด้วยว่าให้ชาวสิงคโปร์ อยู่ห่างจากหน่วยเลือกตั้ง และคอยติดตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ส่วนใครก็ตามที่ต้องการความช่วยเหลือด้านกงสุลเร่งด่วน ก็สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่สถานทูตสิงคโปร์ในกรุงเทพฯ