เอเจนซีส์ - ข้อมูลทรานสปอนเดอร์ดาต้าแสดงเสียงบันทึกสนทนาระหว่างห้องนักบินเที่ยวบิน EK521 ของสายการบินเอมิเรตส์และหอบังคับการบินท่าอากาศยานนานาชาติดูไบได้ถูกค้นพบ ที่เริ่มต้นตั้งแต่ก่อนการแลนดิง พบกัปตันเครื่องบินพยายามจะนำเครื่องลงจอดเป็นครั้งที่ 2 โดยมีคำสั่งให้ไต่ระดับความสูง 4,000 ฟุต ก่อน 12 วินาทีที่เครื่องได้ลดระดับความสูงอย่างรวดเร็ว และกระแทกเข้ากับรันเวย์สนามบินท่ามกลางอุณหภูมิสูงร่วม 49 องศาเซลเซียสของสนามบิน
นิวส์ออสเตรเลียรายงานวันนี้ (5 ส.ค.) ถึงความคืบหน้าล่าสุดของการเกิดอุบัติเหตุของสายการบินเอมิเรตส์เที่ยวบิน EK521 โดยพบว่าล่าสุดมีการเปิดเผยบันทึกเสียงสนทนาระหว่างนักบินคนขับและหอบังคับการบินท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ โดยการสนทนาเริ่มต้นตั้งแต่ก่อนการลงจอดฉุกเฉิน ทางหอบังคับคับการรับรู้ว่ากัปตันเครื่องบินโบอิ้ง 777-300 ซึ่งได้บินเที่ยวบินนี้มาจากท่าอากาศยานนานาชาติตรีวันดรัม (Trivandrum) อินเดีย กำลังประสบปัญหา และมีเสียงที่ได้ยินว่า เครื่องบินเที่ยว EK521 กำลังเข้าสู่สนามบิน
โดยทางนักบินเอมิเรตส์ได้บอกกับหอบังคับการดูไบว่า “กำลังเดินหน้าตรง ผ่าน 12 ไต่ระดับความสูง 4000 ฟุต” แต่ทว่าหลังจากนั้น หอบังคับการดูไบได้ยินเสียงพูดว่า “หลบออกไปจากตรงนั้น”
และนอกจากนี้ มีเสียงผู้หญิงอีกคนได้เรียกขอกำลังสนับสนุนจากหน่วยดับเพลิงเพื่อไปยังเครื่องบินเอมิเรตส์ที่เกิดอุบัติเหตุ “รถดับเพลิงทุกคันมุ่งหน้าไปยังเครื่องบินที่เกิดอุบัติเหตุ” เสียงสตรีสั่งการ และกล่าวต่อว่า “ขอย้ำ ขอให้ขึ้นไปตามแท็กซีเวย์ ไปยังเครื่องบิน”
เสียงสั่งการของสตรีลึกลับคนนี้ยังกล่าวต่อว่า “มุ่งหน้าไปยังเครื่องบิน รันเวย์ปิดลงแล้ว”
สื่ออสเตรเลียรายงานว่า และภายหลังพบว่าเครื่องบินลำอื่นๆ ที่กำลังรอเพื่อเพื่อออกเดินทาง ได้รับการเตือนถึงความล่าช้า โดยกล่าวว่า มีการดีเลย์เกิดขึ้นบนรันเวย์สนามบิน “ไม่มีใครเคลื่อนไหวในจุดนี้ เป็นการล่าช้าที่ไม่ทราบสาเหตุ ในขณะนี้ลานบินทั้งหมดอยู่ในการควบคุมของหน่วยดับเพลิง”
นิวส์ออสเตรเลียรายงานต่อว่า ผู้โดยสารทั้งหมด 282 คนสามารถถูกอพยพออกไปได้จากเครื่องบินสำเร็จก่อนเครื่องระเบิด แต่พบว่ามีคนจำนวน 13 คนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และนักผจญเพลิงสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จาซิม โมฮัมเหม็ด ฮัสซาน (Jasim Issa Mohammed Hassan) ต้องเสียชีวิตลงในขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่ดับเพลิง
โดยเดอะมิรเรอร์ สื่ออังกฤษรายงานว่า ซาอิฟ อัล ซูเวดี (Saif Al Suwaidi) ผู้อำนวยการบินพลเรือนได้ออกมาชมถึงความกล้าหาญว่า “เสียสละชีวิตตนเองเพื่อปกป้องชีวิตผู้อื่น”
นอกจากนี้ สื่อออสเตรเลียยังรายงานว่า ยังมีการเปิดเผยภาพความโกลาหลภายในเที่ยวบินลำนี้ในระหว่างช่วงเวลาคับขันที่พบว่า ผู้โดยสารจำนวนมากต่างแตกตื่นเพื่อคว้าสัมภาระอยู่บนห้องเคบินผู้โดยสารก่อนที่เครื่องบินจะระเบิด ซึ่งในรายงานของเว็บไซต์ jalopnik รายงานการเผยแพร่ภาพเหตุการณ์ความชุลมุนภายในเครื่องบินเที่ยวประวัติศาสตร์ที่มีผู้โดยสารชาวอินเดียเป็นส่วนใหญ่ และมีผู้โดยสารชาวไทยอยู่ 2 คนรวมอยู่ในนี้ ซึ่งมาถึงปัจจุบันยังไม่ทราบว่าคนไทยทั้ง 2 รายนี้คือใคร โดยทาง jalopnik ชี้ว่า Rehan Quereshi เป็นผู้โพสต์วิดีโอคลิปนี้บนเฟสบุ๊ก
ในวิดีโอคลิปแสดงถึงภาพผู้โดยสารส่วนใหญ่ต่างตกใจ และเร่งรีบค้นหาสัมภาระของตนทั้งๆที่เครื่องยนต์ของเครื่องบินกำลังไหม้ และมีเสียงลูกเรือของเครื่องออกคำสั่งให้คนทั้งหมดกระโดดออกมานอกตัวเครื่อง โดยมีเสียงว่า “กระโดด กระโดด กระโดด ทิ้งของเอาไว้ข้างหลัง”
ทั้งนี้ ผู้โพสต์รายนี้ได้ให้ความเห็นว่า ในขณะที่กำลังเกิดเพลิงไหม้อยู่ภายในเครื่องบิน แต่ผู้โดยสารที่โง่เขลาเหล่านี้กลับยังให้ความสนใจแต่กับข้าวของตัวเองแทนที่จะหลบหนี และถือเป็นความกล้าหาญที่น่าตบมือให้ของเหล่าลูกเรือเหล่านี้ ต้องขอขอบคุณการฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอของพวกเขาที่ได้ช่วยให้ทุกคนปลอดภัย
สื่อออสเตรเลียรายงานว่า จากข้อมูลของทรานสปอนเดอร์ดาต้าและการสื่อสารระหว่างหอบังคับการสนามบินดูไบชี้ไปในทิศทางว่า เครื่องบินโบอิ้ง 777-300 นั้นพยายามจะกลับขึ้นไปไต่ระดับความสูงเดิมในช่วงสุดท้ายก่อนที่จะกระแทกกับรันเวย์ แต่ทว่าทางสายการบินและทีมสอบสวนยังไม่ออกมายืนยันในเรื่องนี้ และสาเหตุของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น มาจนถึงเวลานี้ยังไม่มีผู้ใดทราบ
แต่ทว่าข้อมูลนี้ที่หากได้รับการยืนยันความถูกต้องจากล่องดำของเที่ยวบินนี้ได้ชี้ให้เห็นว่า นักบินได้ขับเครื่องบินโบอิ้ง 777-300 วนเพื่อพยายามที่จะลงจอดเป็นครั้งที่ 2 ในขณะที่ได้มีบางสิ่งที่เลวร้ายบนเครื่องกำลังเกิดขึ้น
โดยข้อมูลทรานสปอนเดอร์ดาต้าของเที่ยวบินเอมิเรตส์ที่เว็บไซต์ด้านการบิน FlightRadar24.com ได้รับมานั้นชี้ให้เห็นว่า เครื่องบินเอมิเรตส์นั้นเคลื่อนที่ลดระดับความสูง ต่ำลงเกือบเข้าใกล้พื้นในเวลา 12:37 น. ตามเวลาท้องถิ่นดูไบในวันพุธ (3 ส.ค.) ก่อนการอ่านค่าอัลติจูด และพบว่าความเร็วแนวดิ่งกลับเพิ่มขึ้นกะทันหัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความพยายามของเครื่องบินเพื่อเริ่มต้นจะบินวน
สื่อออสเตรเลียรายงานต่อว่า และเป็นช่วงเวลาเดียวกันที่การบันทึกเสียงของหอบังคับการบินดูไบพบว่า มีใครบางคนได้ออกคำสั่งเรียกชื่อรหัสหมายเลขเครื่องบิน พร้อมสั่ง “กลับไปที่ 4,000” ซึ่งผู้เชี่ยวชาญการบิน มิคาเอล โรเบิร์ตสัน (Mikael Robertsson) ผู้ก่อตั้งร่วมเว็บไซต์การบิน FlightRadar24 ให้ความเห็นกับเอพีว่า “ผมคืดว่านั่นเป็นความพยายามในการกลับไประดับความสูงเดิม”
แต่อีก 12 วินาทีหลังจากนั้นระดับความสูงของเครื่องลดลง และชนเข้ากับรันเวย์สนามบิน ซึ่งดูเหมือนมีการสะท้อนกลับหลังจากนั้นเล็กน้อย ก่อนที่จะหยุด อ้างอิงจากข้อมูลรานสปอนเดอร์ดาต้า EK521