เอเอฟพี/รอยเตอร์ - สนามบินดูไบ ท่าอากาศยานพลุกพล่านที่สุดในโลกในแง่ของผู้โดยสารระหว่างประเทศ กลับมาให้บริการเที่ยวบินต่างๆ ได้แล้วในวันพุธ (3 ส.ค.) หลังต้องปิดไปนานหลายชั่วโมงจากอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับเครื่องบินของสายการบินเอมิเรตส์ ขณะที่ช่างภาพสมัครเล่นเผยแพร่คลิปบนสื่อสังคมออนไลน์วินาทีระทึกเปลวเพลิงลุกพรึบขึ้นมาจากตัวเครื่อง ส่งควันดำทะมึนพวยพุ่งสู่ท้องฟ้า เคราะห์ดีที่ลูกเรือและผู้โดยสารทั้งหมดได้รับการอพยพลงมาอย่างปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา ชีคอาเหม็ด บิน ซาอิด อัล-มัคตูม ประธานสายการบินเอมิเรตส์ เปิดเผยว่า มีหน่วยดับเพลิง 1 รายเสียชีวิตระหว่างต่อสู้กับไฟที่ลุกไหม้เครื่องบินของสายการบินที่ประสบอุบัติเหตุระหว่างลงจอดในดูไบ
ชีคอาเหม็ดบอกว่า เจ้าหน้าที่ยังคงกำลังสืบสวนเหตุการณ์นี้ ซึ่งมี 14 รายที่ต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่ส่วนใหญ่บาดเจ็บแค่เล็กน้อยหรือปานกลาง พร้อมเผยว่าเครื่องบินลำนี้เข้าสู่บริการครั้งแรกในปี 2013 และเพิ่งผ่านการซ่อมบำรุงในปี 2015 ขณะที่ตัวนักบินก็มีประสบการณ์บินกว่า 7,000 ชั่วโมง
“ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบกลับมาให้บริการเที่ยวบินทั้งขาเข้าและออกแล้ว” เจ้าหน้าที่รัฐบาลเปิดเผยผ่านบัญชีทวิตเตอร์ หลังต้องปิดไปนานเกือบ 4 ชั่วโมงจากอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับเที่ยวบิน EK521 ของสายการบินเอมิเรตส์ ขณะที่รัฐบาลดูไบและสายการบินระบุตรงกันว่ายังไม่ชัดเจนว่าอะไรเป็นต้นตอของเหตุการณ์นี้
ผู้โดยสารและลูกเรือรวม 300 ชีวิตได้รับการอพยพอย่างปลอดภัย หลังจากเครื่องบินของสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวจากอินเดีย เกิดไฟลุกท่วม หลังเกิดกระแทกอย่างแรงระหว่างลงจอดในดูไบ
วิดีโอที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์เป็นภาพของเครื่องบินโบอิ้ง 777-300 จอดแน่นิ่งบนลาน แต่ระหว่างนั้นจู่ๆ เปลวไฟก็ลุกพรึบขึ้นมาจากตัวเครื่อง ส่งควันดำทะมึนพวยพุ่งสู่ท้องฟ้า อย่างไรก็ตามรอยเตอร์ไม่ยืนยันว่าคลิปนี้เป็นของจริงหรือไม่
โฆษกของผู้บริหารสนามบินดูไบระบุว่าทุกคนบนเที่ยวบิน EK521 ที่บินมาจากธิรุวะนันทปุรัมได้รับการอพยพและหน่วยฉุกเฉินกำลังเข้าจัดการกับสถานการณ์
ชายคนหนึ่งซึ่งมารอรับญาติเปิดเผยว่าได้พูดคุยโทรศัพท์กับญาติๆ ที่อยู่บนเครื่อง “พวกเขาบอกว่าปลอดภัยดี ไม่เป็นไร แต่ทันใดนั้นพวกเขาก็ตื่นตระหนกสุดขีดเพราะเกิดไฟลุกไหม้เครื่องบิน” ส่วนชายอีกคนเผยว่าครอบครัวบอกกับเขาว่าพวกเขาไม่เป็นไร และเครื่องบินมีปัญหาเกี่ยวกับฐานล้อ
ด้านชารอน มาร์บาม ซาร์จี หนึ่งในผู้โดยสารที่อยู่บนเครื่อง เล่าว่า “มันน่ากลัวมาก ตอนที่เรากำลังลงจอด มีควันลอยเข้ามาในห้องโดยสาร ผู้คนกรีดร้อง เราลงจอดกระแทกแรงมาก เราหนีออกมาตรงทางลาดฉุกเฉิน เราออกไปจากรันเวย์และได้เห็นว่าเครื่องบินทั้งลำไฟลุกท่วม มันน่ากลัวมาก”
เอวิเอชัน เฮรัลด์ เว็บไซต์สังเกตการณ์อุบัติเหตุทางอากาศที่น่าเชื่อถือ อ้างข้อมูลของหอควบคุมการบิน ระบุว่าเจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศของดูไบเตือนให้นักบินของโบอิ้ง77 กางฐานล้อตอนที่มันกำลังมาถึง
จากนั้นไม่นานนักบินแจ้งว่าขอยกเลิกการลงจอดเพื่อบินวน ขั้นตอนปฏิบัติทั่วไปสำหรับนักบินที่ได้รับการฝึกฝนเป็นอย่างดี แต่เครื่องบินลำนี้กลับพุ่งไปจนเกือบจะสุดรันเวย์แทน เอวิเอชัน เฮรัลด์ระบุ
ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าฐานล้อได้กางออกหรือไม่ตอนที่เครื่องบินสัมผัสกับพื้น ณ เวลาประมาณ 08.45 จีเอ็มที (ตรงกับเมืองไทย 15.45 น.) ขณะที่ผู้โดยสารครอบครัวหนึ่งซึ่งไม่ประสงค์เผยชื่อ อ้างว่าฐานล้อไม่กางและลงจอดโดยใช้ท้องเครื่องบิน
เบื้องต้นสายการบินเอมิเรตส์ระบุว่ามีผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด 275 คน แต่ต่อมาปรับแก้ข้อมูลเป็นผู้โดยสาร 282 คน และลูกเรือ 18 คน
เหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยบอกว่ายังเร็วเกินไปที่จะชี้ว่าอะไรเป็นต้นตอของอุบัติเหตุ โดยคณะสืบสวนจะเข้าสอดส่องตามเศษซาก สัมภาษณ์นักบิน เจ้าหน้าที่หอควบคุมการบิน และผู้เห็นเหตุการณ์ เช่นเดียวกับตรวจสอบข้อมูลในกล่องดำ เพื่อคลี่คลายเงื่อนงำว่ามันเป็นเหตุขัดข้องทางเทคนิค ความผิดพลาดของมนุษย์ หรือปัญหาเกี่ยวกับสภาพอากาศ
รายงานภาพอากาศทางออนไลน์ก่อนเครื่องบินประสบอุบัติเหตุพบว่าในดูไบมีลมค่อนข้างแรง ด้วยมีฝุ่นปลิวและลมเฉือน (Wind shear) ในทุกรันเวย์