รอยเตอร์/เอเจนซีส์ – การรักษาความปลอดภัยสถานทูตเกาหลีใต้ถูกปรับความเข้มงวดในวันพฤหัสบดี(28 ก.ค)อย่างฉับพลัน หลังจากบรรดาสื่อมวลชนทั่วโลกต่างรายงานว่า 1 ในสมาชิกทีมแข่งขันวิชาคณิตศาสตร์จากเกาหลีเหนือวัย 18 ปีที่มาจากครอบครัวกองทัพเกาหลีเหนือ ได้ขอเข้าลี้ภัยในสถานทูตเกาหลีใต้หลังจากถูกเปียงยางคัดเลือกส่งมาเป็นตัวแทนแข่งขันโอลิมปิกคณิตศาสตร์ครั้งที่ 57 ในมหาวิทยาลัยฮ่องกง ซึ่งล่าสุดเดอะสแตนดาร์ด สื่อฮ่องกงชี้สถานการณ์ของผู้ขอลี้ภัยยังสับสน รัฐบาลฮ่องกงส่งตำรวจคอมมานโดและหน่วยต่อต้านก่อการร้ายคุ้มครองตึกสถานทูต
รอยเตอร์รายงานวันนี้(28 ก.ค) สื่อจีน เซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์รายงานการขอเข้าลี้ภัยของตัวแทนเกาหลีเหนือที่ได้ถูกรัฐบาลเกาหลีเหนือส่งเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิดคณิตศาสตร์ครั้งที่ 57 ซึ่งจัดโดยมหาวิทยาลัยฮ่องกง 2 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ โดยอ้างจากแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ฮ่องกง
ในขณะที่สื่ออื่นๆได้รายงานว่า นักเรียนเกาหลีเหนือวัย 18 ปีซึ่งได้ขอลี้ภัยนี้มาจากครอบครัวสายทหารในเกาหลีเหนือ ซึ่งในปัจจุบันนี้ความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ อาจสามารถกล่าวได้ว่า ยังคงอยู่ในช่วงสงคราม และมีรายงานถึงชาวเกาหลีเหนือที่แปรพักตร์หลบหนีออกนอกประเทศเป็นระยะๆ
รอยเตอร์รายงานต่อว่า ตำรวจฮ่องกงทั้งในและนอกเครื่องแบบได้ออกเดินลาดตระเวนใกล้ตึกซึ่งตั้งอยู่ในย่านศูนย์การเงินฮ่องกง ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานทูตเกาหลีใต้ ซึ่งในขณะนี้ห้อมล้อมไปด้วยกองทัพนักข่าวจำนวนมากที่ตั้งด่านอยู่บริเวณด้านนอกคอยรายงานความเคลื่อนไหว
ในขณะที่รัฐบาลท้องถิ่นฮ่องกง SAR และสถานทูตเกาหลีใต้ต่างไม่ออกมาให้ความเห็นในเรื่องนี้
ทั้งนี้ในการแข่งขันโอลิมปิกคณิตศาสตร์ครั้งที่ 57 ถูกจัดขึ้นในวันที่ 11-12 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งทีมจากเกาหลีเหนือประกอบไปด้วยตัวแทนทั้งหมดจำนวน 6 คน ซึ่งล้วนแต่เป็นชายทั้งหมด และพบว่าในการแข่งครั้งนี้ ทางทีมสามารถชนะได้เป็นอันดับ 6 ของประเทศที่เข้าร่วมการแข่งทั้งหมด
รอยเตอร์รายงานว่า คณะกรรมการจัดงานโอลิมปิกคณิตศาสตร์ปฎิเสธที่จะให้ความเห็นในเรื่องนี้เช่นกัน และเป็นท่าทีเดียวกับกระทรวงต่างประเทศเกาหลีใต้ซึ่งได้กล่าวว่า รัฐบาลเกาหลีใต้ไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะสามารถออกมาให้ความเห็นที่เกี่ยวกับผู้แปรพักตร์เกาหลีเหนือได้ เพื่อความปลอดภัยของคนเหล่านี้และความสัมพันธ์ทางการทูตของประเทศที่เกี่ยวข้อง
ในขณะเดียวกันกระทรวงต่างประเทศจีนในกรุงปักกิ่งไม่ตอบคำถามนักข่าวในเรื่องการขอลี้ภัยของตัวแทนแข่งกีฬาโอลิมปิกวิชาการวัย 18 ปีจากเกาหลีเหนือ
และในการรายงานสถานการณ์ล่าสุดจากฮ่องกงโดยสื่อฮ่องกง เดอะสแตนดาร์ดชี้ว่า สถานการณ์ลี้ภัยของเกาหลีเหนือแปรพักตร์ยังสับสน ซึ่งมีข่าวหลายกระแสบ้างก็อ้างว่า ผู้ขอลี้ภัยซึ่งหลบอยู่ภายในสถานทูตเกาหลีเหนือประจำฮ่องกงมา 1 สัปดาห์แล้วเป็นเจ้าหน้าที่กองทัพเกาหลีเหนือ ในขณะที่อีกบางส่วนชี้ว่าเป็นตัวแทนโอลิมปิกคณิตศาสตร์จากเกาหลีเหนือที่ถูกส่งมาร่วมการแข่งขันโอลิมปิกคณิตศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยฮ่องกง
แต่อย่างไรก็ตาม สื่อฮ่องกงชี้ว่า รัฐบาลท้องถิ่นฮ่องกง SAR ได้แจ้งไปยังกระทรวงต่างประเทศซึ่งได้ประสานงานไปยังฝ่ายบริหารจัดการภายในฮ่องกง(Security Bureau)อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งพบว่าได้มีการส่งทีมต่อต้านก่อการร้าย และทีมคอมมานโด(Tactical Unit)ไปยังย่านศูนย์กลางการเงินฮ่องกง ตึกฟาร์อีสต์ไฟแนนซ์ เซนเตอร์(Far East Finance Centre)บนถนนฮาร์คอร์ตโร๊ด( Harcourt Road) โดยสถานทูตเกาหลีใต้ตั้งอยู่บนชั้นที่ 5
ทั้งนี้เดอะสแตนดาร์ดชี้ว่า ดูเหมือนรัฐบาลท้องถิ่นฮ่องกง SAR ต้องการหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่อึมครึมเหมือนเมื่อครั้งเคยเกิดขึ้นกับเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน นักแฉอดีตเจ้าหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูล NSA สหรัฐฯมาแล้ว ซึ่งทางผู้สื่อข่าวเดอะสแตนดาร์ดพบเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบฮ่องกงอยู่บริเวณล็อบบี้ของตัวตึก และยอมรับกับผู้สื่อข่าวว่า คนเหล่านี้เป็นตำรวจนอกเครื่องแบบจริง
สื่อฮ่องกงรายงานต่อว่า ทั้งนี้ในเบื้องต้นเป็นที่น่าเชื่อว่ามีชาวเกาหลีเหนือแปรพักตร์อย่างน้อย 1 คนหลบอยู่ภายในที่ตั้งของสถานทูตเกาหลีใต้ และในเบื้องต้นยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า เกาหลีเหนือแปรพักตร์สามารถเดินทางเข้าสู่ฮ่องกงได้ด้วยวิธีใด และมีจุดมุ่งหมายที่จะเดินทางต่อไปยังเกาหลีใต้ หรือประเทศที่ 3 โดยสื่อฮ่องกงรายงานตรงกับรอยเตอร์ที่ชี้ว่า ภูมิหลังของเกาหลีเหนือแปรพักตร์มาจากครอบครัวทหาร
และดูเหมือนว่าผู้เชี่ยวชาญด้านการต่างประเทศในฮ่องกงได้ออกมาวิเคราะห์ว่า รัฐบาลท้องถิ่นฮ่องกง SAR ไม่มีสิทธิ์ตัดสินในปัญหาที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้ ซึ่งตามกฎหมาย Basic Law ได้ชี้ว่า ปักกิ่งมีสิทธิ์ขาดจัดการในปัญหาที่เกี่ยวข้องระดับระหว่างประเทศ
สตีฟ ชัง ลกเว่ย(Steve Chung Lok-wai) ผู้เชี่ยวชาญประจำการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศประจำมหาวิทยาลัยจีนได้ให้ความเห็นว่า “ดูเหมือนชะตาชีวิตของเกาหลีเหนือแปรพักตร์จะไม่ได้ขึ้นอยู่กับระบบศาลยุติธรรมฮ่องกง” ซึ่งชังกล่าวว่า ดูเหมือนว่าทางสถานทูตเกาหลีใต้จะได้แจ้งไปยังรัฐบาลท้องถิ่นฮ่องกงให้รับทราบในเหตุที่เกิดขึ้น และธรรมเนียมปฎิบัติคือฝ่ายบริหารจัดการภายในฮ่องกงจะแจ้งต่อไปยังกระทรวงต่างประเทศจีนให้ได้รับทราบต่อไป
และชังกล่าวต่อว่า และหากทางเกาหลีใต้ประสงค์จะรับเกาหลีเหนือแปรพักตร์ลี้ภัยในฐานะผู้ลี้ภัยทางการเมือง ทางโซลต้องติดต่อกับไปทางปักกิ่งให้รับทราบและเริ่มกระบวนการ
แต่อย่างไรก็ตามชังให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า เนื่องจากรัฐบาลจีนมีการติดต่อกับรัฐบาลเกาหลีเหนือตามปกติ ดังนั้นในทางปฎิบัติปักกิ่งจะเนรเทศผู้แปรพักตร์กลับคืนสู่เกาหลีเหนือ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญรายนี้ชี้ว่า เนื่องจากเป็นคดีที่เป็นที่รู้ไปทั่ว จึงอาจเป็นไปได้ที่ทางปักกิ่งอาจเนรเทศส่งตัวกลับประเทศบ้านเกิด แต่เป็นเพราะเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในฮ่องกงที่มีการปกครองแบบ 1 ประเทศ 2 ระบบดังนั้นจึงเห็นควรคิดถึงตัวแปรอื่นๆด้วย