xs
xsm
sm
md
lg

ผู้นำโสมขาววอนชาวบ้านสามัคคี กรณีติดตั้ง THAAD ชี้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รอยเตอร์ - ประธานาธิบดี พัค กึน-ฮเย ของเกาหลีใต้ ระบุในวันพฤหัสบดี (21 ก.ค.) ถึงความเคลื่อนไหวในการติดตั้งระบบต่อต้านขีปนาวุธ THAAD ว่าเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะภัยคุกคามที่เพิ่มมากขึ้นจากเกาหลีเหนือ ทั้งยังบอกด้วยว่าความแตกแยกในเกาหลีใต้คือสิ่งที่รัฐบาลโสมแดงต้องการ

พัคกล่าวในการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติว่า เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธ 3 ลูกเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา นับเป็นหลักฐานล่าสุดถึงความจำเป็นที่ต้องมีระบบต่อต้านขีปนาวุธ

การประกาศในเดือนนี้ของเกาหลีใต้และอเมริกา ที่จะจัดส่งระบบต่อต้านขีปนาวุธ THAAD กับกองกำลังสหรัฐฯ ไปอยู่ในแถบชนบทของเกาหลีใต้ ทำให้เกิดการประท้วงจากชาวบ้านที่กังวลเรื่องผลกระทบเชิงลบต่อสุขภาพและสภาพแวดล้อม

"ถ้าเรายังคงแตกแยกและเกิดความสับสนในสังคมมากขึ้น เรื่องการตัดสินใจที่ไม่มีทางเลือกอื่น เพื่อปกป้องประเทศและการใช้ชีวิตของประชาชน นั่นเป็นสิ่งที่เกาหลีเหนือต้องการ" พัค กล่าว

เกาหลีเหนือระบุเมื่อวันพุธว่าได้ดำเนินการทดสอบยิงขีปนาวุธ ซึ่งเป็นการจำลองสถานการณ์โจมตีท่าเรือและสนามบินของเกาหลีใต้ที่กองทัพอเมริกาจะมาใช้งาน โดยคาดว่านั่นเป็นการกล่าวถึงขีปนาวุธ 3 ลูกที่ยิงเมื่อวันอังคาร

กองทัพเกาหลีใต้ระบุว่า ขีปนาวุธเหล่านั้นพุ่งออกไปไกล 500 - 600 กิโลเมตร แล้วตกลงในทะเลนอกชายฝั่งตะวันออก เป็นระยะที่ยิงลงตรงไหนก็ได้ในเกาหลีใต้ หากเกาหลีเหนือตั้งใจจะโจมตี

ชาวบ้านจำนวนมากในเมืองซองจู ที่อยู่ห่างจากกรุงโซลประมาณ 200 กิโลเมตร ได้เข้าร่วมกับฝ่ายค้านในรัฐสภาและกลุ่มประชาสังคม ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกการตัดสินใจติดตั้งระบบต่อต้านขีปนาวุธ THAAD ไว้ที่นั่น

นอกจากนี้ยังคาดว่า ชาวบ้านจากซองจูหลายพันคนจะรวมตัวประท้วงที่ใจกลางกรุงโซลในวันพฤหัสบดีนี้ด้วย

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เกิดการเผชิญหน้ากันระหว่างชาวบ้านกับนายกรัฐมนตรีของเกาหลีใต้ ผู้ถูกปาด้วยไข่และขวดพลาสติก ทั้งยังติดอยู่ในรถบัสเป็นเวลาหลายชั่วโมง ตอนที่เขาพยายามจะไปอธิบายถึงการตัดสินใจเรื่องติดตั้ง THAAD แต่ก็มีชาวบ้านบางรายที่โทษว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นฝีมือของพวกซ้ายจัดที่เป็นคนนอก

พัคบอกว่า เกาหลีเหนืออาจจะกระทำการที่ก้าวร้าวขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ได้ รวมถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการทดสอบนิวเคลียร์ครั้งที่ 5 หรือการโจมตีไซเบอร์ต่อโครงข่ายของชาติและสถาบันการเงิน

เธอบอกต่อที่ประชุมความมั่นคงด้วยว่า เกาหลีเหนือยังได้เพิ่มยุทโธปกรณ์ทางทหารใกล้กับบริเวณชายแดนทั้งทางบกและทางทะเลที่กั้นระหว่างทั้งสองประเทศ

ในทางเทคนิคแล้ว เกาหลีทั้งสองชาตินั้นถือว่ายังคงทำสงครามกันอยู่ แต่มีการตกลงพักรบกัน ซึ่งช่วยยุติการต่อสู้ในช่วงปี 1950 - 1953 ของสงครามเกาหลี

ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีได้เพิ่มสูงขึ้น นับตั้งแต่เกาหลีเหนือดำเนินการทดสอบนิวเคลียร์ครั้งที่ 4 เมื่อเดือนมกราคม แล้วตามมาด้วยการยิงดาวเทียมและทดสอบขีปนาวุธอีกหลายครั้ง


กำลังโหลดความคิดเห็น