รอยเตอร์ - รัฐบาลเกาหลีเหนือออกมาแถลงวันนี้ (20 ก.ค.) ว่าการทดสอบขีปนาวุธที่เพิ่งผ่านไปหมาดๆ นั้นมีวัตถุประสงค์เพื่อจำลองการโจมตีเมืองท่า และฐานทัพอากาศในเกาหลีใต้ที่มีทหารอเมริกันประจำการอยู่ ซึ่งเข้าใจว่าน่าจะหมายถึงการยิงทดสอบขีปนาวุธ 3 ลูกซ้อนเมื่อวันอังคาร (19)
สำนักข่าวเคซีเอ็นเอของเกาหลีเหนือระบุว่า ผู้นำ คิม จอง อึน ได้เดินทางไปควบคุมการยิงทดสอบจรวดครั้งนี้ด้วยตนเอง โดยเป็นการจำลองสถานการณ์ที่กองทัพโสมแดงยิงขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์โจมตีเป้าหมายในเกาหลีใต้
เคซีเอ็นเอไม่ได้ระบุวันเวลาในการทดสอบที่ชัดเจน ซึ่งเป็นธรรมเนียมของสื่อเกาหลีเหนือที่มักจะเผยแพร่ข่าวกิจกรรมของ “ท่านผู้นำ” โดยไม่บอกวันเวลาและสถานที่
กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้แถลงว่า ขีปนาวุธทั้ง 3 ลูกที่เกาหลีเหนือยิงทดสอบเมื่อวันอังคาร (19) เดินทางไปได้ไกลประมาณ 500-600 กิโลเมตร ก่อนจะตกลงสู่ทะเลนอกชายฝั่งตะวันออก
“การยิงทดสอบครั้งนี้ได้จำกัดพิสัยเดินทางของจรวด เพื่อสมมติว่าเป็นการยิงถล่มเมืองท่าและฐานทัพอากาศในเกาหลีใต้ซึ่งมีอาวุธยุทโธปกรณ์สำหรับทำสงครามนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ ประจำการอยู่” เคซีเอ็นเอรายงาน
“และเป็นอีกครั้งหนึ่งที่เราได้ทดสอบประสิทธิภาพของตัวจุดระเบิดหัวรบนิวเคลียร์ ซึ่งจะถูกติดตั้งไว้บนขีปนาวุธ และถูกกำหนดให้ทำงานที่ระดับความสูงอย่างเฉพาะเจาะจงเหนือพื้นที่เป้าหมาย”
กองทัพสหรัฐฯ ระบุว่า จรวด 2 ลูกที่เกาหลีเหนือนำมาทดสอบน่าจะเป็น “ขีปนาวุธสกั๊ด” ส่วนลูกที่ 3 เป็น “ขีปนาวุธโรดอง” ซึ่งเกาหลีเหนือพัฒนาต่อยอดมาจากจรวดสกั๊ดของสหภาพโซเวียต
ผู้นำเกาหลีเหนืออ้างว่า นักวิทยาศาสตร์ของตนประสบความสำเร็จในการพัฒนา “หัวรบนิวเคลียร์ย่อส่วน” เพื่อนำไปติดตั้งบนขีปนาวุธได้แล้ว แต่ผู้เชี่ยวชาญนานาชาติเชื่อว่าโสมแดงยังต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะปรับปรุงเทคโนโลยีดังกล่าวให้ถึงขั้นใช้งานได้จริง และการที่เกาหลีเหนือยิงจรวดติดๆ กันถึง 3 ลูกเมื่อวันอังคาร (19) ก็เป็นแค่การโอ้อวดแสนยานุภาพ เพื่อตอบโต้ที่สหรัฐฯ และเกาหลีใต้เตรียมจะนำระบบป้องกันขีปนาวุธในบรรยากาศชั้นสูง (Terminal High Altitude Area Defense - THAAD) เข้าไปติดตั้งบนคาบสมุทรเกาหลี
เปียงยางได้ออกมาขู่ว่าจะใช้ “มาตรการทางกายภาพ” ตอบโต้หากวอชิงตันส่งระบบ THAAD เข้าไปยังเกาหลีใต้ ขณะที่จีนเตือนว่าแผนการของสหรัฐฯ และเกาหลีใต้จะบั่นทอนความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ “อย่างร้ายแรง”