รอยเตอร์ - กองทัพตุรกีกรีฑาทัพบุกเมืองแบบสายฟ้าแลบ และอ้างว่ายึดอำนาจได้สำเร็จในวันศุกร์(15ก.ค.) แต่นายกรัฐมนตรีโต้ว่าความพยายามก่อรัฐประหารดังกล่างถูกสยบ สถานการณ์ที่ยังผันผวนภายในประเทศแห่งนี้
หากการรัฐประหารโค่นอำนาจประธานาธิบดีตอยยิบ เออร์โดกัน ซึ่งปกครองตุรกีมาตั้งแต่ปี 2013 ประสบความสำเร็จ จะเท่ากับเป็นหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงทางอำนาจครั้งใหญ่ในตะวันออกกลางในรอบหลายปี
อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรีบินาลี ยิลดิริม ตอบโต้ว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งยังอยู่ในอำนาจ ขณะเดียวกันแม้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวมาจากนายเออร์โดกัน แต่สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น เติร์ก ระบุว่าเขาปลอดภัยดี
ในถ้อยแถลงทางอีเมล์และรายงานข่าวของสถานีโทรทัศน์ตุรกีทุกช่อง ทางกองทัพอ้างว่าเข้ายึดอำนาจเพื่อปกป้องประชาธิปไตยและธำรงไว้เพื่อสิทธิมนุษยชน โดยทุกความสัมพันธ์ระหว่างตุรกีและต่างชาติจะคงไว้ตามเดิม และหลักนิติธรรมยังเป็นเป้าหมายลำดับต้นๆ
สนามบินต่างๆถูกปิด การเข้าถึงสื่อสังคมออนไลน์ถูกตัดขาด และทหารปิดกั้นสะพาน 2 แห่งเหนือช่องแคบบอสฟอรัสในอิสตันบูล
สถานีโทรทัศน์แห่งรัฐทีอาร์ที แถลงคำประกาศเคอร์ฟิวทั่วประเทศ โดยผู้ประกาศรายหนึ่งอ่านคำสั่งของกองทัพที่กล่าวหารัฐบาลกัดเซาะประชาธิปไตยและหลักนิติธรรม พร้อมระบุว่าประะเทศจะถูกบริหารโดย "สภาสันติภาพ" ที่จะรับประกันความปลอดภัยของประชาชน
ผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่าได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นในเมืองหลวง ส่วนผู้เห็นเหตุการณ์บอกกับรอยเตอร์ว่าเฮลิคอปเตอร์เปิดฉากยิง หลังจากกองทัพอ้างว่าได้ยึดอำนาจ และประกาศกฎอัยการศึกและประกาศเคอร์ฟิว เบื้องต้นไม่เป็นที่ชัดเจนว่าอะไรคือต้นตอของเหตุระเบิด แต่ยังพบเห็นเครื่องบินหลายลำยังคงบินเหนือท้องฟ้ากรุงอังการาในช่วงกลางดึก
ในเวลาไม่นานนัก ประธานาธิบดีเออร์โดกัน ปรากฏตัวผ่านสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น เติร์ก โดยพูดบนเฟซไทม์ผ่านโรศัพท์มือถือ ในปฏิกิริยาแรกต่อความเคลื่อนไหวของกองทัพตุรกี โดยประกาศว่าแผนรัฐประหารจะไม่ประสบความสำเร็จ และเรียกร้องประชาชนออกมารวมตัวกันบนท้องถนนเพื่อสนับสนุนเขา