เอเอฟพี - น้ำมันร่วงหนักกว่า 2 ดอลลาร์ในวันพุธ (13 ก.ค.) หลังสหรัฐฯ เผยสต๊อกเชื้อเพลิงสำรองลดลงน้อยกว่าคาด รื้อฟื้นความกังวลอุปทานล้นตลาด ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวก คาดธนาคารกลางอังกฤษจะหันหน้าสู่นโยบายผ่อนคลายการเงิน ขณะที่ทองคำขยับขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 5 วัน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด เดือนสิงหาคม ลดลง 2.05 ดอลลาร์ ปิดที่ 44.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบดือนกันยายน ลดลง 2.21 ดอลลาร์ ปิดที่ 46.26 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันทั้งสองสัญญาพุ่งขึ้นเกือบ 5 เปอร์เซ็นต์ในวันอังคาร (12 ก.ย.) หลังจากโอเปกคาดหมายว่าภาวะอุปทานล้นตลาดจะคลี่คลายในปีนี้และปี 2017 จากกำลังผลิตที่ลดลงในชาติผู้ผลิตนอกโอเปก
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลสสต๊อกเชื้อเพลิงสหรัฐฯส่งผลกระทบอย่างแรงต่อตลาดน้ำมันในวันพุธ (13 ก.ย.) หลังพบว่าคลังน้ำมันดิบสำรองทางพาณิชย์ลดลง 2.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 8 กรกฎาคม แต่ยังคงแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่เหล่านักวิเคราะห์คาดหมายว่าจะลดลงถึง 3 ล้านบาร์เรล
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพุธ(13ก.ย.) ขยับขึ้นเล็กน้อย แต่ก็เพียงพอที่เอสแอนด์พี 500 และดาวโจนส์ จะทุบสถิติสูงสุดรอบใหม่ ท่ามกลางความคาดหมายว่าธนาคารกลางอังกฤษจะหันหน้าสู่นโยบายผ่อนคลายการเงิน ตามหลังประชามติแยกตัวจากสหภาพยุโรป
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 24.45 จุด (0.13 เปอร์เซ็นต์) ปิด 18,372.12 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 0.29 จุด (0.70 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,152.43 จุด แนสแดค ลดลง 17.09 จุด (0.34 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,005.73 จุด
หลังจากพุ่งขึ้นแรง 3 วันติดจากข้อมูลเศรษฐกิจอเมริกา ความสนใจของตลาดพุ่งเป้าไปยังการประชุมของธนาคารกลางอังกฤษในวันพฤหัสบดี (14 ก.ค.) ท่ามกลางความคาดหมายว่าธนาคารแห่งนี้จะเลี้ยวเข้าสู่นโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณทางการเงิน ในความพยายามปกป้องเศรษฐกิจจากผลกระทบของผลโหวตแยกตัวจากอียูเมื่อเดือนที่แล้ว
ส่วนราคาทองคำปิดบวกเป็นครั้งแรกในรอบ 5 วันในวันพุธ (13 ก.ค.) จากแรงช้อนซื้อของนักลงทุน หลังขยับลงต่อเนื่องมาหลายวันก่อนหน้านี้ โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 8.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,343.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์
