เอเอฟพี - วิกฤตราคาน้ำมันตกต่ำส่งผลให้รัฐบาลเวเนซุเอลามีรายได้จากการส่งออกน้ำมันลดลงถึง 40.7% ในปี 2015 รายงานประจำปีของรัฐวิสาหกิจน้ำมัน PDVSA ระบุวานนี้ (3 ก.ค.)
PDVSA ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันรายใหญ่อันดับ 5 ของโลก ทำรายได้ตลอดปีที่แล้วเพียง 72,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงเกือบครึ่งจากสถิติ 121,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2014 ขณะที่กำไรสุทธิก็ลดลง 19% เหลือแค่ 7,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
น้ำมันและก๊าซธรรมชาติถือเป็นสินค้าออกที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของเวเนซุเอลา โดยคิดเป็น 96% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด และเวเนซุเอลายังมีแหล่งน้ำมันดิบสำรองมากที่สุดในโลกราวๆ 300,000 ล้านบาร์เรล
กระทรวงปิโตรเลียมและเหมืองแห่งเวเนซุเอลา แถลงเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (1 ก.ค.) ว่า ราคาน้ำมันดิบเวเนซุเอลาลดฮวบลงมาอยู่ที่ 31.15 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ในช่วงครึ่งแรกของปี 2016
“ในปี 2014 ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยอยู่ที่ 88 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่รายได้จากการส่งออกของเราลดลงมาก” ยูโลจิโอ เดล ปิโน รัฐมนตรีกระทรวงปิโตรเลียม และประธาน PDVSA ระบุในการให้สัมภาษณ์ซึ่งออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอกชน Televan เมื่อวันอาทิตย์ (3)
การส่งออกน้ำมันที่ซบเซายิ่งเป็นมรสุมซ้ำเติมวิกฤตเศรษฐกิจของเวเนซุเอลาซึ่งขณะนี้สินค้าอุปโภคบริโภคขั้นพื้นฐานร้อยละ 80 กำลังอยู่ในภาวะขาดแคลน รวมถึงอาหาร และยารักษาโรค
ราคาสินค้าที่พุ่งสูงลิ่วได้นำไปสู่เหตุจลาจล การปล้นชิงทรัพย์สิน และระบบศาลเตี้ย
ประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร กล่าวโทษพวกฝ่ายขวาว่าสมคบคิดกันบ่อนทำลายเศรษฐกิจของประเทศ ในขณะที่กลุ่มฝ่ายค้านเรียกร้องให้มีการจัดทำประชามติถอดถอนประธานาธิบดีออกจากตำแหน่งเพื่อรับผิดชอบวิกฤตบ้านเมือง