เอเอฟพี – ตำรวจเดนมาร์กแถลงความสำเร็จในวันนี้(30 มิ.ย) ถึงมาตรการยึดทรัพย์สินจากผู้ลี้ภัยใช้แทนค่าใช้จ่ายลี้ภัยในโคเปนเฮเกนได้เป็นเงินสดเกือบ 11,000 ยูโร ถือเป็นการประกาศครั้งแรกจากแดนโคนมนับตั้งแต่ได้นำกฎหมายนี้มาบังคับใช้ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
เอเอฟพีรายงานวันนี้(30 มิ.ย)ว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติเดนมาร์กได้ออกแถลงการณ์ในวันพฤหัสบดี(30 มิ.ย)เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ได้มีการประกาศบังคับใช้ในเดือนกุมภาพันธ์ถึงกฎหมายมาตรการยึดทรัพย์สินมีค่าจากกลุ่มผู้ลี้ภัยที่ได้เดินทางเข้าประเทศ “ตำรวจโคเปนเฮเกนสามารถยึดทรัพย์สินจำนวน 79,600 โครนเนอร์เดนมาร์ก หรือราว 10,700 ยูโร จากชาวต่างชาติ 5 รายที่พยายามเดินทางเข้าประเทศด้วยหนังสือเดินทางปลอม”
ทั้งนี้ในกฎหมายยึดทรัพย์ผู้ลี้ภัยนี้อนุญาตให้ตำรวจแดนโคนมสามารถยึดทรัพย์สินจากผู้เดินทางเข้าเดนมาร์กได้หากมีมูลค่าสูงกว่า 10,000 โครนเนอร์เดนมาร์ก หรือ 1,340 ยูโร ซึ่งสร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วจากผู้ไม่เห็นด้วยในกฎหมายเข้าเมืองเดนมาร์กฉบับนี้ โดยหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ สื่อยักษ์ใหญ่สหรัฐฯได้เปรียบเทียบมาตรการนี้กับนาซีเยอรมันในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ได้ยึดทรัพย์สินมีค่าจากประชาชนชาวยิวในขณะนั้น
สำนักงานตำรวจแห่งชาติเดนมาร์กแถลงต่อว่า ชาวต่างชาติทั้ง 5 ที่ได้ถูกทางการเดนมาร์กยึดทรัพย์สิน มีเงินสดติดตัวร่วมกันไม่ต่ำกว่า 129,000 โครนเนอร์เดนมาร์ก โดยคนเหล่านี้มีความประสงค์ต้องการขอลี้ภัยในเดนมาร์ก ซึ่งเอกสารยื่นขอสิทธิ์ลี้ภัยได้ถูกพิจารณาอยู่ในเวลานี้ เอเอฟพีรายงาน
ซึ่งจากวิกฤตสงครามกลางเมืองซีเรียทำให้ในปีที่ผ่านมา เดนมาร์กต้องรับผู้อพยพเข้าประเทศไม่ต่ำกว่า 21,000 คน สูงกว่าในปี 2014 ถึง 44%