รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - รัสเซีย-อเมริกาฉายหนังคนละม้วน เมื่อต่างฝ่ายต่างกล่าวหากันในวันอังคาร (28 มิ.ย.) เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เรือรบสองประเทศแล่นเข้าหาและตัดหน้ากันอย่างอันตรายในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเมื่อวันที่ 17 ที่ผ่านมา
กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงว่า เรือพิฆาตอเมริกันแล่นเข้าใกล้เรือรบของตนอย่างน่ากลัวว่าจะเกิดอันตราย และยื่นประท้วงว่า อเมริกาละเมิดกฎที่กำหนดขึ้นเพื่อป้องกันการชนกันในทะเลอย่างชัดเจน
ทว่า เจ้าหน้าที่กลาโหมคนหนึ่งของอเมริกาออกมาพูดเรื่องนี้โดยไม่เปิดเผยตัวตนว่า เรือรบรัสเซียต่างหากที่ดำเนินการ “ไม่ปลอดภัยและไม่เป็นมืออาชีพ” ใกล้เรือ 2 ลำของกองทัพเรือสหรัฐฯ
ช่วงหลายเดือนหลังมานี้เกิดเหตุการณ์มากมายที่คล้ายกับช่วงสงครามเย็น โดยเรือรบและเครื่องบินรบของรัสเซียและอเมริกาแล่นเฉียดใกล้กันในทะเลและบนน่านฟ้า และมอสโกกับวอชิงตันต่างกล่าวหากันว่าเข้าประชิดอย่างเป็นอันตรายในน่านน้ำและน่านฟ้าสากล
ในเหตุการณ์หนึ่งซึ่งกองทัพสหรัฐฯ ระบุว่าเกิดขึ้นเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมานั้น เครื่องบินทิ้งระเบิด SU-24 ของรัสเซียจำลองการโจมตีด้วยการบินเฉียดเรือพิฆาต ยูเอสเอส โดนัลด์ คุก ซึ่งเจ้าหน้าที่อเมริกันคนหนึ่งบอกว่า เป็นปฏิกิริยาที่ก้าวร้าวที่สุดครั้งหนึ่งเท่าที่จำได้
ตอนนั้น จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า พฤติกรรมของนักบินรัสเซียยั่วยุและอันตราย และอาจถูกยิงร่วงได้ภายใต้กฎการปะทะ
ในวันอังคาร (28) กระทรวงกลาโหมรัสเซียที่กำลังไม่พอใจการขยายกิจกรรมใกล้ชายแดนของตนอย่างคึกคักโดยองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) นั้น แถลงในกรุงมอสโกว่า เหตุการณ์ล่าสุดเมื่อ 17 มิถุนายน แสดงให้เห็นว่าทหารเรืออเมริกันปล่อยให้ตัวเองหลงลืมหลักการเดินเรืออย่างปลอดภัย และไม่คิดถึงผลลัพธ์สุดท้ายของพฤติกรรมอันตรายนี้
คำแถลงของกระทรวงกลาโหมแดนหมีขาวแจกแจงว่า ในเหตุการณ์ดังกล่าว เรือยูเอสเอส เกรฟลีย์ ของสหรัฐฯ แล่นเข้ามาเฉียดใกล้เรือฟรีเกต ยาโรสลาฟ มูดรีของรัสเซีย ในระยะ 60-70 เมตรจากฝั่งซ้ายของเรือรัสเซีย จากนั้นก็แล่นตัดหน้าเส้นทางเดินเรือของยาโรสลาฟ มูดรี ในระยะ 180 เมตรจากหัวเรือ โดยขณะนั้นเรือรัสเซียอยู่ในน่านน้ำสากลบริเวณด้านตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และแล่นด้วยความเร็วคงที่ รวมทั้งไม่ได้บังคับเรือในลักษณะที่เป็นอันตราย
ทว่า เจ้าหน้าที่กลาโหมสหรัฐฯ กลับบอกเล่าเรื่องราวที่ตรงกันข้ามว่า เรือฟรีเกตของรัสเซียต่างหากที่แล่นตัดหน้าเรือยูเอสเอส เกรฟลีย์ในระยะประชิดหลายครั้ง ซ้ำยังเรียกร้องให้เรือเกรฟลีย์รักษาระยะห่างที่ปลอดภัย
เจ้าหน้าที่คนเดิมเพิ่มเติมว่า เรือรัสเซียเข้าประชิดเรือเกรฟลีย์ โดยอยู่ห่างเพียง 290 เมตร และห่าง 5 ไมล์ทะเลจากเรือบรรทุกเครื่องบิน ยูเอสเอส แฮร์รี เอส. ทรูแมน ซึ่งถือเป็นการกระทำที่มีแนวโน้มนำไปสู่ความตึงเครียดระหว่างสองประเทศโดยไม่จำเป็น และอาจส่งผลให้มีการคำนวณผิดพลาดหรือเกิดอุบัติเหตุที่มีผู้บาดเจ็บหรือล้มตาย
เจ้าหน้าที่ผู้นี้เสริมว่า ขณะเกิดเหตุ เรือทรูแมนและเรือเกรฟลีย์อยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจปกติในการสนับสนุนการกวาดล้างกลุ่ม “รัฐอิสลาม” (ไอเอส)
ทางด้านนาวาโท มิเชลล์ บัลดันซา โฆษกหญิงของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงว่า เพนตากอนกำลังติดตามเรื่องนี้กับฝ่ายรัสเซียผ่านช่องทางการทหาร