รอยเตอร์ - เจ้าหน้าที่ระบุการออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษนั้นเสี่ยงที่จะบั่นทอนยุทธศาสตร์ทางทหารของยุโรป โดยที่ในอีกไม่กี่วันข้างหน้าจะมีการลงนามในข้อตกลงที่สำคัญมากระหว่างชาติสมาชิกอียู และนาโต เพื่อเผชิญหน้ากับภัยคุกคามจากรัสเซียในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
สหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกานั้นมีแผนจะใช้การประชุมของอียูและการประชุมของนาโตในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เพื่อผลักดันให้เกิดการปฏิรูป 2 เสาหลักด้านความมั่นคงของซีกโลกตะวันตก โดยมุ่งเป้าที่จะให้ยุโรปลดการพึ่งพาสหรัฐฯ ในการดูแลพื้นที่ละแวกใกล้เคียงของตนเอง
“หลายอย่างดูจะหนักหนาสาหัสขึ้นมาก เดิมทีนาโตวางแผนจะเอาตัวเองไปเชื่อมโยงไว้กับสหภาพยุโรปที่เข้มแข็งขึ้น ไม่ใช่กลุ่มที่จะแตกแยกและอ่อนแอ” เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องกับความร่วมมือของอียู-นาโต ระบุ
เฟเดริกา โมเกรินี ประธานด้านนโยบายต่างประเทศของอียู จะบอกกับบรรดาผู้นำอียูในวันอังคาร (28 มิ.ย.) ขณะเผยแผนยุทธศาสตร์ 5 ปีว่า การเผชิญกับท่าทีก้าวร้าวมากขึ้นของรัสเซีย รวมถึงปัญหาวิกฤตผู้อพยพและปัญหารัฐล้มเหลวบริเวณพื้นที่พรมแดนอียู ทำให้สหภาพยุโรปจำเป็นจะต้องดำเนินการด้วยตนเองโดยอัตโนมัติเมื่อถึงคราวจำเป็น
เจ้าหน้าที่ระบุว่าจะมีการเรียกร้องให้รัฐบาลของหลายชาติร่วมมือกันเรื่องค่าใช้จ่ายด้านกลาโหม โดยมีการสนับสนุนอย่างเข้มแข็งจากเยอรมนี และฝรั่งเศส แต่อาจจะดูโหวงเหวงไปบ้างหากไม่มีอังกฤษซึ่งมีงบประมาณทางทหารมากที่สุดในอียู
ด้วยการเป็น 1 ใน 5 ชาติที่มีทรัพยากรเพียงพอจะคุมภารกิจทางทหารในต่างแดนให้แก่สหภาพยุโรป อังกฤษถือเป็นผู้บริจาครายใหญ่ของปฏิบัติการที่นำโดยอียู โดยมีการควักจ่ายราว 15 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงให้สินทรัพย์
อังกฤษยังเป็นผู้นำใน “ปฏิบัติการแอตตาแลนตา” ปฏิบัติการต่อต้านโจรสลัดบริเวณนอกแหลมแอฟริกา โดยมีเรือหลายลำตรวจตราในบริเวณนั้นของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทั้งยังได้รับมอบหมายให้ส่งทหารไปร่วมกลุ่มสู้รบของอียู อย่างไรก็ตาม ทหารเหล่านั้นไม่เคยถูกส่งไป
ข้อเสนอของโมเกรินีต่อบรรดาผู้นำอียูจะรวมถึงการเรียกร้องให้บรรดาภารกิจที่นำโดยอียูทำงานร่วมกับการรักษาพรมแดนของอียู เพื่อควบคุมการหลั่งไหลของผู้อพยพ ที่อาจจะยากขึ้นเมื่อไม่มีเรือของอังกฤษ
“สิ่งที่อังกฤษทำนั้นมีความสำคัญ อังกฤษคือผู้สนับสนุนด้านความมั่นคงรายใหญ่ในยุโรป” เลขาธิการใหญ่นาโต เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก กล่าว
แต่ด้วยความหวั่นเกรงในแผนสร้างกองทัพอียู อังกฤษได้ต่อต้านความร่วมมืออย่างใกล้ชิดมากขึ้นของยุโรป โดยทางรัฐมนตรีกลาโหมอังกฤษ ไมเคิล ฟาลลอน เคยบอกกับรอยเตอร์ในเดือนนี้ว่า ไม่มีใครอยากเห็นทหารของตัวเองถูกควบคุมโดยบรัสเซลส์
แต่ก็มีบางรายที่หวังให้ออกมาแบบนั้น เพราะการไม่มีอังกฤษคอยขัดขวางแผนของอียู ฝรั่งเศสและเยอรมนีก็จะได้เป็นผู้นำในสิ่งที่ทางเบอร์ลินเรียกว่า “สหภาพกลาโหมร่วม” เพื่อจะพัฒนาและแบ่งปันสินทรัพย์ โดยฝรั่งเศสได้เคยผลักดันแนวคิดที่จะให้มีสำนักงานใหญ่ทางทหารของอียู ที่เป็นอิสระจากนาโตไว้คอยปฏิบัติภารกิจ
สโตลเทนเบิร์กระบุว่า ฟาลลอนเคยบอกเขาเรื่องที่อังกฤษจะไม่เสี่ยงเข้าร่วมในความพยายามของอียู-นาโต เพื่อตอบโต้การโจมตีไซเบอร์ของรัสเซีย ปฏิบัติการร่วมในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเพื่อหยุดการหลั่งไหลเข้ายุโรปของผู้อพยพ หรือแม้กระทั่งแผนปิดกั้นการขนย้ายอาวุธเข้า-ออกลิเบีย ที่กำลังจะเริ่มในอีกไม่นานนี้
ถึงกระนั้นอังกฤษก็ยังสามารถเข้าร่วมภารกิจของอียูได้ แม้จะไม่ได้เป็นสมาชิกในกลุ่มแล้วก็ตาม เหมือนกับแคนาดาและนอร์เวย์ แต่ก็ไม่ได้ถูกกำหนดให้อยู่ในยุทธศาสตร์ระยะยาว