เอเอฟพี - ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ประกาศให้บาร์เก่าแก่ในนครนิวยอร์ก และพื้นที่โดยรอบเป็น “อนุสรณ์สถาน” เพื่อชาวสีม่วงแห่งแรกของประเทศ เมื่อวันศุกร์ (24 มิ.ย.) ในฐานะที่เป็นจุดกำเนิดของขบวนการต่อสู้เพื่อสิทธิเกย์ในสหรัฐฯ
อนุสรณ์สถานแห่งชาติที่จัดตั้งขึ้นนี้ ครอบคลุมพื้นที่บาร์ “สโตนวอลล์ อินน์” ในย่านกรีนิชวิลเลจ สวนสาธารณะด้านข้าง และพื้นที่โดยรอบ
เหตุปะทะรุนแรงซึ่งกินเวลาราว 1 สัปดาห์ บนถนนคริสโตเฟอร์สตรีท ในย่านกรีนิชวิลเลจ เมื่อปี 1969 ระหว่างลูกค้าบาร์เกย์ “สโตนวอลล์ อินน์” กับพวกตำรวจ ซึ่งมักจะบุกเข้ามาจับกุมเกย์โดยอ้างกฎหมายศีลธรรมในยุคนั้น ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้สังคมอเมริกันหันมาให้ความสำคัญต่อสิทธิและเสรีภาพของชาวสีม่วง ซึ่งต่อมาผู้คนได้เรียกขานเหตุการณ์นี้ว่า การจลาจลที่สโตนวอลล์ (Stonewall Riots)
“เหตุการณ์นี้ถูกมองว่า เป็นจุดพลิกผันที่ทำให้ชุมชน LGBT ทั่วสหรัฐฯ ได้ผนึกกำลังกัน เพื่อเรียกร้องความเท่าเทียม และการได้รับเกียรติจากสังคม” คำแถลงจากทำเนียบขาว ระบุ
“รัฐบาลจะจัดตั้งหน่วยงานอุทยานแห่งชาติอย่างเป็นทางการ เพื่อบอกเล่าประวัติศาสตร์ของกลุ่มชาวเลสเบียน เกย์ ไบเซ็กชวล และคนข้ามเพศ (LGBT) ในอเมริกา”
สวนสาธารณะ คริสโตเฟอร์ ปาร์ก และ บาร์ สโตนวอลล์ อินน์ ยังคงเป็นพื้นที่สำหรับการแสดงออกของกลุ่มชาวสีม่วงมาจนถึงทุกวันนี้ และหลังเกิดเหตุกราดยิงบาร์เกย์ในเมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตไปถึง 49 ศพ ก็มีประชาชนหลายพันคนมารวมตัวกันที่นี่เพื่อไว้อาลัย
ปีที่แล้ว กลุ่มชาวสีม่วงก็ได้เดินทางมาที่ สโตนวอลล์ อินน์ เพื่อเฉลิมฉลองคำพิพากษาของศาลสูงสุดสหรัฐฯ ซึ่งอนุมัติการแต่งงานสำหรับชาวเกย์ในรัฐทั้ง 50 ของอเมริกา เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ปี 2015