เอเจนซีส์ / MGR online – ทางการของสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก จับกุมเจ้าหน้าที่ระดับรองผู้ว่าราชการจังหวัด 1 ราย และสมาชิกจำนวน 74 คนของกลุ่มติดอาวุธกลุ่มหนึ่ง เตรียมนำตัวดำเนินคดีในข้อหาสังหารหมู่ และอยู่เบื้องหลังการข่มขืนครั้งเลวร้ายที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคตะวันออกของประเทศ
อเล็กซิส ธัมบ์เว เอ็มวามบา รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมของสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกแถลงที่กรุงคินชาซาในวันพฤหัสบดี (23 มิ.ย.) โดยยืนยันการจับกุมตัวเฟรเดริก บาตูมิเก รองผู้ว่าราชการและสมาชิกรัฐสภาท้องถิ่นของจังหวัด “คิวูใต้” รวมถึง สมาชิกอีก 74 รายของกลุ่มติดอาวุธท้องถิ่น ที่เรียกกลุ่มตัวเองว่า “กองทัพพระเยซู” ที่ก่อตั้งโดยบาตูมิเก
รายงานข่าวระบุว่า ทางการสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกอ้างว่า มีหลักฐานที่เชื่อได้ว่า บาตูมิเก เป็นผู้สั่งการให้สมาชิกกลุ่มติดอาวุธของตน ลงมือสังหาร เอวาริสเต คาซาลี นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนชื่อดังชาวคองโก เมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว รวมถึงอยู่เบื้องหลังการฆาตกรรมวัลเทอร์ มืลเลอร์ เจ้าของที่ดินรายใหญ่ในจังหวัดคิวูใต้ที่เป็นชาวเยอรมันเมื่อปี 2012
ขณะที่สมาชิกกลุ่มติดอาวุธนี้ก็ถูกกล่าวหาว่า ทำการข่มขืนหญิงสาวราว 30 คนในพื้นที่ด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ ทางการสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก จะนำตัวบาตูมิเก และสมาชิกกลุ่มติดอาวุธดังกล่าวไปคุมขังไว้ภายในเรือนจำแห่งหนึ่งในเมืองบูกาวู ที่เป็นเมืองเอกของจังหวัดคิวูใต้ในระหว่างการรอดำเนินคดี
ก่อนหน้านี้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 ราย หลังเกิดเหตุปะทะกันระหว่างทหารกองทัพรัฐบาลสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก กับ สมาชิกกลุ่มกบฏบริเวณฐานทัพแห่งหนึ่งในวันที่ 15 มิ.ย.
รายงานข่าวระบุว่า เหตุปะทะกันอย่างหนักหน่วงดังกล่าว เกิดขึ้นที่ฐานทัพแห่งหนึ่งในเมืองคามินา ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ ของอดีตดินแดนอาณานิคมของเบลเยียมแห่งนี้
เหตุปะทะกันดังกล่าว ถูกระบุว่า เกิดขึ้น ในระหว่างที่เหล่าสมาชิกของกลุ่มกบฏหลายกลุ่มที่มีจำนวนมากกว่า 2,300 คน ถูกนำมารวมตัวกันที่ฐานทัพแห่งนี้ เพื่อเข้าร่วมโครงการปลดอาวุธและเข้าสู่กระบวนการนิรโทษกรรมของรัฐบาล
จนถึงขณะนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า เพราะเหตุใดสมาชิกฝ่ายกบฏที่ตัดสินใจยอมวางอาวุธ และเข้ามอบตัวกับทางการแล้ว ถึงตัดสินใจจับอาวุธขึ้นก่อเหตุยิงปะทะกับทหารของฝ่ายรัฐบาลอีก ท่ามกลางรายงานซึ่งอ้างแหล่งข่าวว่า ความล่าช้าของกระบวนการนิรโทษกรรม เพราะปัญหาด้านงบประมาณ และความเป็นอยู่ที่ยากลำบากภายในค่ายทหารที่เมืองคามินาแห่งนี้ อาจเป็นต้นเหตุสำคัญของความตึงเครียดที่นำไปสู่การปะทะกันระลอกนี้ ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตซึ่งรวมถึงทหารของฝ่ายรัฐบาลอย่างน้อย 20 ราย
หลังการยิงปะทะ มีรายงานว่า สมาชิกของกลุ่มกบฏจำนวนหนึ่ง ได้ตัดสินใจหลบหนีออกจากค่ายคามินา และมุ่งหน้าเข้าปล้นร้านค้า ตลอดจนบ้านเรือนของประชาชนในตัวเมือง
ทั้งนี้ ในบรรดาสมาชิกกลุ่มกบฏจำนวนมากกว่า 2,300 คน ที่รอกระบวนการนิรโทษกรรมอยู่ที่ค่ายทหารเมืองคามินาแห่งนี้ มีสมาชิกกลุ่มกบฏใหญ่อย่างกลุ่ม “M23” และกองกำลังติดอาวุธของชนเผ่า “ไม-ไม” รวมอยู่ด้วย