รอยเตอร์ - คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในวันพฤหัสบดี (23 มิ.ย.) ออกคำแถลงประณามการยิงขีปนาวุธเร็วๆ นี้ของเกาหลีเหนือ ว่าเป็นการละเมิดคำสั่งห้ามของนานาชาติอย่างร้ายแรง และเรียกร้องสมาชิกยูเอ็นทั้ง 193 ประเทศบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรอย่างเข้มข้นต่อชาติคอมมิวนิสต์แห่งนี้
เกาหลีเหนือยิงจรวดซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นขีปนาวุธพิสัยกลางในความสูงระดับหนึ่ง ซึ่งมีทิศทางมุ่งตรงไปยังญี่ปุ่นเมื่อวันพุธ (22 มิ.ย.) ก่อนที่มันจะดิ่งลงสู่ทะเลราว 2 ชั่วโมงหลังจากการทดสอบแบบเดียวกันล้มเหลว
“สมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติขอประณามกิจกรรมขีปนาวุธทั้งหมดทั้งมวลของเกาหลีเหนือ และเล็งเห็นว่าความเคลื่อนไหวเหล่านี้ล้วนส่งเสริมการพัฒนาระบบส่งอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือและรังแต่เพิ่มความตึงเครียด” คณะมนตรีฯ ที่มีสมาชิก 15 ชาติระบุ “สมาชิกของคณะมนตรีฯ ยังเสียใจมากขึ้นไปอีกที่เกาหลีเหนือเบี่ยงเบนทรัพยากรที่มีเพื่อแสวงหาขีปนาวุธ ขณะที่ความต้องการต่างๆ ประชาชนชาวเกาหลีเหนือไม่ได้รับการตอบสนอง”
สำนักข่าวเคซีเอ็นเอของทางการเกาหลีเหนือรายงานเมื่อวันพฤหัสบดี (23 มิ.ย.) ว่า คิมที่ติดตามการทดสอบจรวดในวันพุธ (22 มิ.ย.) ยกย่องว่าการทดสอบดังกล่าวเป็น “เหตุการณ์ยิ่งใหญ่” ที่ส่งเสริมศักยภาพในการโจมตีก่อนด้วยอาวุธนิวเคลียร์ของเปียงยาง และตอนนี้ประเทศของเขามีแสนยานุภาพเพียงพอที่จะโจมตีผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ในแปซิฟิก
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเปิดประชุมในช่วงค่ำวันพุธ (22 มิ.ย.) เพื่อหารือเกี่ยวกับการยิงขีปนาวุธดังกล่าว และออกถ้อยแถลงในวันพฤหัสบดี (23 มิ.ย.) ประณามในระดับความหนักหน่วงพอๆ กับเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ต่อการทดสอบขีปนาวุธหลายต่อหลายครั้งโดยเปียงยางก่อนหน้านี้
ซาแมนธา เพาเวอร์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ ส่งสัญญาณว่าอเมริกาจะหาทางระบุตัวบุคคลและองค์การต่างๆ ที่อาจอยู่เบื้องหลังการทดสอบครั้งแล้วครั้งเล่า และจะกำหนดมาตรการลงโทษโดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
เกาหลีเหนืออยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรของยูเอ็นมาตั้งแต่ปี 2006 ขณะที่เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติยกระดับคว่ำบาตรหนักหน่วงที่สุดเท่าที่เคยมีมา ตอบโต้การทดสอบนิวเคลียร์ครั้งที่ 4 ของเปียงยางในเดือนมกราคม และการยิงจรวดพิสัยไกลในเดือนต่อมา
อย่างไรก็ตาม เพาเวอร์บอกว่านับตั้งแต่มาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ถูกกำหนดขึ้น เกาหลีเหนือเดินหน้าทดสอบขีปนาวุธไปแล้วถึง 10 ครั้ง “ในขณะที่เกาหลีเหนือเดินหน้าทดสอบระบบส่งขีปนาวุธ พวกเขามีความก้าวหน้าและเรียนรู้สิ่งต่างๆ มากขึ้น เพราะฉะนั้นจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่เราต้องร่วมมือกันและกลบช่องว่างที่อาจมีอยู่ในการบังคับใช้มติเดือนมีนาคม”
