รอยเตอร์ - สหภาพแรงงานฝรั่งเศสในวันอังคาร (21 มิ.ย.) ปฏิเสธคำร้องขอจากรัฐบาลที่ให้ยกเลิกแผนเดินขบวนประท้วงไปตามท้องถนนสายต่างๆ ของกรุงปารีส เพิ่มโอกาสที่จะเผชิญหน้ากับตำรวจปราบจลาจลในอีกไม่ถึง 48 ชั่วโมงข้างหน้า ขณะที่ประเทศแห่งนี้กำลังเป็นเจ้าภาพจัดยูโร 2016
แบร์กนาร์ กาเซอเนิฟ รัฐมนตรีมหาดไทยฝรั่งเศส บอกกับรัฐสภาว่ารัฐบาลจะแสดงจุดยืนเร็วๆ นี้ต่อท่าทีล่าสุดของสหภาพแรงงาน หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเขาเคยขู่ห้ามเดินขบวน ตามหลังเหตุปะทะกันระหว่างตำรวจกับผู้ก่อจลาจลบริเวณรอบนอกการประท้วงก่อนหน้านี้
รัฐบาลโซเชียลิสต์กำลังกลัดกลุ้มที่ต้องเลือกระหว่างผลกระทบในแง่ร้ายทางการเมืองจากการห้ามเดินขบวนกับความเสี่ยงเกิดเหตุรุนแรง ในช่วงเวลาที่ตำรวจต้องดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มข้นแก่ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 ภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
สหภาพ CGT และสหภาพอื่นๆ อีก 6 แห่งที่อยู่เบื้องหลังการประท้วง ย้ำถึงจุดยืนของพวกเขาที่จะเดินขบวนไปตามท้องถนนในวันพฤหัสบดี (23 มิ.ย.) หลังจากพบปะกับตำรวจที่ร้องขอให้พวกเขาปักหลักชุมนุมอยู่กับที่ ณ บริเวณจัตุรัสแห่งหนึ่งในกรุงปารีส
ทางสหภาพแรงงานและเหล่านักศึกษาเดินหน้าประท้วงมานานหลายเดือนต่อแผนผ่อนปรนกฎหมายแรงงานอันเข้มงวดของฝรั่งเศส ที่ทางฝ่ายต่อต้านบอกว่ามันช่วยปกป้องสิทธิของแรงงาน แต่ทางรัฐบาลต้องการปฏิรูป ด้วยทางประธานาธิบดีฟรังซัวส์ ออลลองด์ระบุว่าการเปิดเสรีในตลาดแรงงานเป็นแนวทางที่ดีที่สุดสำหรับจัดการกับตัวเลขคนว่างงานที่พุ่งแตะระดับสองหลัก
“เราไม่ได้ต้องการห้ามชุมนุม เราแค่ต้องการรับประกันว่าการประท้วงจะไม่เสี่ยงเกิดความรุนแรง ตำรวจต่างเหนื่อยล้าและต้องการเวลาพักบ้าง” กาเซอเนิฟกล่าว
รัฐบาลมีสิทธิ์ห้ามการประท้วงของประชาชนตามสถานที่ต่างๆ หากเห็นว่ามีความเสี่ยงต่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง และมีอำนาจอย่างกว้างขวางภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่บังคับใช้มาตั้งแต่นักรบอิสลามิสต์โจมตีกรุงปารีส คร่าชีวิต 130 ศพเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปีก่อน ทั้งนี้ ผู้ฝ่าฝืนจัดการชุมนุมมีสิทธิ์โดนโทษปรับหรือจำคุกสูงสุด 6 เดือน
ระหว่างการประท้วงเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน พวกก่อจลาจลหลายร้อยคนซึ่งจำนวนมากสวมหน้ากากได้ปะทะกับตำรวจ รื้อทำลายทางเท้าและทุบกระจกของโรงพยาบาลเด็กแห่งหนึ่งระหว่างเหตุวุ่นวายในกรุงปารีส ขณะที่ตำรวจก็ตอบโต้ด้วยแก๊สน้ำตาและฉีดน้ำใส่ ส่งผลให้ทั้งสองฝ่ายมีผู้ได้รับบาดเจ็บรวมหลายสิบคน
