เอเอฟพี - ปฏิบัติการจู่โจมของกองทัพอิรักเพื่อยึดคืนเมืองฟัลลูจาห์ ฐานที่มั่นของพวกญิฮัด ทำชาวบ้านต้องพลัดถิ่นกว่า 43,000 คนภายในเวลาแค่ 3 สัปดาห์ จากการเปิดเผยขององค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM) ในวันอังคาร (14 มิ.ย.)
องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐานระบุในถ้อยแถลงว่ารวมแล้วมีชาวอิรัก 43,470 คน (7,245 ครอบครัว) ที่ต้องโยกย้ายถิ่นจากเขตฟัลลูจาห์ระหว่างวันที่ 22 พฤษภาคม ถึง 13 มิถุนายน และในนั้นมีอยู่ถึง 10,000 คนที่เพิ่งหลบหนีออกมาระหว่างวันที่ 11-13 มิถุนายน
อย่างไรก็ตาม ทางองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐานเผยว่าผู้พลัดถิ่นส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นประชาชนจากในตัวเมือง แต่เป็นผู้พักอาศัยอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ บริเวณรอบนอก ขณะที่เชื่อว่ายังมีพลเรือนอีกหลายหมื่นคนที่ติดอยู่ในกลางเมือง บางรายถูกกลุ่มไอเอสใช้เป็นโล่มนุษย์ป้องกันการโจมตีจากกองทัพอิรัก
“เหตุย้ายถิ่นฐานที่กำลังเกิดขึ้นและเกิดขึ้นไปแล้วเมื่อเร็วๆ นี้ ควรได้รับความสนใจอย่างปัจจุบันทันด่วน” โธมัส โลทาร์ หัวหน้าภารกิจอิรักขององค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐานระบุในถ้อยแถลง “ทางไอโอเอ็มกำลังตอบสนอง แต่เงินทุนและเสบียงยังไม่เพียงพอสำหรับมอบความช่วยเหลืออย่างพอเพียงแก่ผู้พลัดถิ่นอิรักจำนวนมหาศาล” เขากล่าว
ฟัลลูจาห์เป็นหนึ่งในฐานที่มั่นสัญลักษณ์สำคัญของไอเอส ตั้งอยู่ในจังหวัดอันบาร์ และอยู่ห่างจากกรุงแบกแดดไปทางตะวันตกแค่ราวๆ 50 กิโลเมตร
ระลอกคลื่นการพลัดถิ่นล่าสุดส่งผลให้ตัวเลขของชาวอิรักซึ่งไร้ที่อยู่อาศัยจากความขัดแย้งทั่วประเทศที่เริ่มมาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2014 เพิ่มเป็น 3.3 ล้านคน โดยในนั้นร้อยละ 40 เป็นประชาชนของจังหวัดอันบาร์ อันเป็นแก่นกลางการประกาศจัดตั้งรัฐที่ปกครองโดยกาหลิบของพวกไอเอสเมื่อ 2 ปีก่อน