xs
xsm
sm
md
lg

มือปืนกราดยิงในออร์แลนโด เป็น ‘ขาประจำ’ เที่ยวคลับเกย์ที่บุกโจมตี สื่อมะกันระบุ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

<i>ภาพไม่ปรากฏวันที่จากบัญชีสื่อสังคม “มายสเปซ” ของ โอมาร์ มาทีน </i>
เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - มือปืนที่กราดยิงสังหารหมู่ผู้คน 49 ชีวิตในคลับเกย์ “พัลซ์” ของเมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา เป็นขาประจำคนหนึ่งของแหล่งราตรีสถานสำหรับชาวรักร่วมเพศแห่งนี้ นักเที่ยว 4 รายเปิดเผยกับหนังสือพิมพ์ออร์แลนโด เซนติเนล ในวันจันทร์ (13 มิ.ย.)

“บางครั้งเขาจะเดินไปตรงมุมห้อง แล้วนั่งดื่มอยู่คนเดียว ในครั้งอื่นๆ เขาจะอยู่ในอาการมึนเมา เขาจะส่งเสียงดังและแสดงกิริยาอาการก้าวร้าว” ไท สมิธ บอกกับออร์แลนโด เซนติเนล เมื่อพูดถึง โอมาร์ มาทีน มือปืนวัย 29 ปีซึ่งถูกยิงตายไปด้วยในที่เกิดเหตุเมื่อช่วงก่อนรุ่งสางวันอาทิตย์ (12)

สมิธบอกกับหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ว่า เขาเห็นมาทีนอยู่ข้างในคลับเกย์ยอดนิยมแห่งนี้อย่างน้อยที่สุดสิบกว่าครั้ง

“พวกเราไม่ได้พูดคุยกับเขาอะไรจริงจังนักหรอก แต่ผมจำได้ว่าเขาพูดถึงเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับพ่อของเขาอยู่เป็นพักๆ” สมิธกล่าว “เขาบอกพวกเราด้วยว่าเขามีเมียและมีลูก”

เควิน เวสต์ แขกขาประจำของคลับ “พัลซ์” อีกคนหนึ่ง บอกกับหนังสือพิมพ์ลอสแองเจลิสไทมส์ ว่ามาทีน ส่งข้อความคุยกับเขาเป็นพักๆ เดี๋ยวหายไปเดี๋ยวคุยใหม่ เป็นระยะเวลาราว 1 ปี โดยใช้แอปพลิเคชันสนทนา (แชตแอป) เจ้าหนึ่งซึ่งเป็นที่นิยมของชาวเกย์

ยังมีนักเที่ยวคลับรายอื่นๆ บอกกับสื่อมวลชนท้องถิ่นและ MSNBC ว่า มาทีนใช้แอปของชาวเกย์อยู่หลายแอป เป็นต้นว่า Grindr โดยที่มีพวกที่คุ้นเคยรู้จักกันและกันเข้าร่วมวง

นอกจากนั้น มาทีนยังเข้าไปในดิสนีย์เวิลด์เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ผู้จัดการคนหนึ่งในดิสนีย์บอก โดยขอไม่ให้เปิดเผยชื่อ

ภรรยาของเขา นูร์ ซาฮี ซัลมาน เวลานี้ยังไม่ได้ให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ หนังสือพิมพ์ออร์แลนโด เซนติเนลรายงานโดยอ้างคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่รักษากฎหมายผู้หนึ่งซึ่งพูดโดยขอให้สงวนนาม

มีผู้ถูกสังหารไป 49 คนที่ทางการตำรวจสามารถระบุอัตลักษณ์ได้ทั้งหมดแล้ว และยังมีผู้บาดเจ็บอีก 53 คน จากเหตุกราดยิงคลับเกย์ออร์แลนโดคราวนี้ซึ่งกลายเป็นเหตุการณ์กราดยิงสังหารหมู่ครั้งที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของสหรัฐฯ

ผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) เจมส์ โคมีย์ แถลงว่า เอฟบีไอ “มีความมั่นใจอย่างสูง” ว่า มาทีน “กลายเป็นคนหัวรุนแรง” จากการบริโภคการโฆษณาชวนเชื่อต่างๆ ทางออนไลน์ และเขาได้ประกาศอ้างตนเป็นผู้จงรักภักดีต่อ อาบู บาคร์ อัล-แบกดาดี ผู้นำของกลุ่ม “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) ในขณะที่เขาโทรศัพท์อยู่หลายๆ หน ระหว่างทำการโจมตีคลับเกย์คราวนี้

กำลังโหลดความคิดเห็น