xs
xsm
sm
md
lg

“ปักกิ่ง” บอกสหรัฐฯ ไม่ควรปล่อยให้ชาติพันธมิตรมาบงการ “นโยบายทะเลจีนใต้”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

<i>ภาพที่เผยแพร่โดยกองทัพเรือสหรัฐฯเมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2015 โดยระบุว่า เป็นภาพนิ่งจากวิดีโอซึ่งเครื่องบินตรวจการณ์ของสหรัฐฯบันทึกเอาไว้ แสดงให้เห็นเรือขุดของจีนหลายลำกำลังทำงานอยู่ในน่านน้ำรอบๆ แนวปะการังไฟเออรี ครอสส์ ในทะเลจีนใต้  เวลานี้จีนเป็นผู้ควบคุมไฟเออรี ครอสส์ ขณะที่ฟิลิปปินส์, เวียดนาม, และไต้หวัน ยังคงประกาศอ้างกรรมสิทธิ์ด้วย</i>
รอยเตอร์/MGR ออนไลน์ - สหรัฐฯ ไม่ควรที่จะวินิจฉัยตัดสินนโยบายว่าด้วยทะเลจีนใต้ของตน โดยขึ้นอยู่กับสิ่งที่พวกชาติพันธมิตรขบคิด และควรยึดมั่นอยู่กับคำมั่นสัญญาของวอชิงตันที่ว่าจะไม่เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดในกรณีพิพาทในภูมิภาคดังกล่าว เจิ้ง เจ๋อกวง รองรัฐมนตรีต่างประเทศจีนกล่าวในวันนี้ (2 มิ.ย.) ไม่กี่วันก่อนหน้าการประชุมหารือระดับสูงด้านความมั่นคงจีน-สหรัฐฯ

จีนนั้นมีความรู้สึกโกรธเกรี้ยวต่อสิ่งที่ตนเห็นว่าเป็นการตรวจการณ์ทางทหารอย่างมุ่งยั่วยุของสหรัฐฯ ในบริเวณใกล้เกาะต่างๆ ซึ่งแดนมังกรควบคุมอยู่ในทะเลจีนใต้ ขณะที่วอชิงตันอ้างว่าการตรวจการณ์เหล่านี้มุ่งเพื่อพิทักษ์ปกป้องเสรีภาพในการเดินเรือและการเดินอากาศ

ทั้งนี้ จีนอ้างกรรมสิทธิ์ในพื้นที่แทบทั้งหมดของทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นทางผ่านของเส้นทางการค้าทางนาวีที่มีมูลค่าสูงถึงปีละ 5 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะเดียวกันก็ทับซ้อนกับบริเวณซึ่งฟิลิปปินส์, เวียดนาม, มาเลเซีย, ไต้หวัน และบรูไน ประกาศอ้างกรรมสิทธิ์ พร้อมกันนั้นสหรัฐฯ ซึ่งมีนโยบาย “ปักหมุด” กลับคืนสู่เอเชีย ก็พยายามกระชับสายสัมพันธ์ทางทหารกับหลายๆ ประเทศซึ่งพิพาทอยู่กับปักกิ่งเหล่านี้

รองรัฐมนตรีเจิ้งของจีน กล่าวในเวทีการประชุมแห่งหนึ่งวันนี้ (2) ว่า แดนมังกรมีสิทธิทุกประการที่จะปกป้องพิทักษ์อธิปไตยของตนและสิทธิต่างๆ ทางทะเลในทะเลจีนใต้

“ในความเป็นจริงแล้ว สหรัฐฯ ไม่ได้เป็นผู้อ้างสิทธิในกรณีพิพาททะเลจีนใต้ด้วยซ้ำ อีกทั้งสหรัฐฯบอกว่าไม่ได้เข้าข้างหนึ่งข้างใดในการพิพาทช่วงชิงดินแดนเหล่านี้” เจิ้งชี้

“ดังนั้นเราจึงหวังว่าสหรัฐฯ จะสามารถยึดมั่นในคำมั่นสัญญาของตน และไม่เลือกอยู่ข้างหนึ่งข้างใด แต่สามารถที่จะกำหนดจุดยืนของตนโดยขึ้นอยู่กับการถูกผิดของแต่ละกรณี แทนที่จะมุ่งมองว่ามีบางคน (ในกรณีพิพาท) เป็นพันธมิตรของตนหรือไม่” เขากล่าวต่อ

“ผมคิดว่าถ้าพวกเขาทำได้เช่นนี้ และถ้าพวกเขาสามารถยุติพฤติการณ์ยั่วยุต่างๆ ซึ่งพุ่งเป้าหมายไปที่อธิปไตยของจีนและผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของจีนแล้ว สหรัฐฯก็จะสามารถแสดงบทบาทอันสร้างสรรค์ในการธำรงรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในทะเลจีนใต้ และกระตุ้นส่งเสริมให้มีการลดอุณหภูมิในประเด็นปัญหานี้”

จีนกับสหรัฐฯ มีกำหนดการที่จะหารือระดับสูงในเรื่องความมั่นคงอยู่แล้วในสัปดาห์หน้า และเจิ้งก็ระบุว่า หัวหน้าคณะของฝ่ายจีน คือ หยาง เจียฉือ มนตรีแห่งรัฐ (เทียบเท่ารองนายกรัฐมนตรีจีน) จะหยิบยกเรื่องที่เขากล่าวนี้ ขึ้นมาพูดกับรัฐมนตรีต่างประเทศ จอห์น เคร์รี ของสหรัฐฯ ด้วย

ไม่เพียงเท่านั้น คาดหมายกันว่าเรื่องทะเลจีนใต้ยังจะเป็นหัวเรื่องสำคัญใน “การสนทนาแชงกรี-ลา” (Shangri-La Dialogue) อันเป็นเวทีประชุมสัมมนาประจำปีว่าด้วยความมั่นคงใหญ่ที่สุดงานหนึ่งของเอเชีย ซึ่งจัดขึ้นที่สิงคโปร์เริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (3) โดยฝ่ายจีนมีนายพลเรืออาวุโสผู้หนึ่งเข้าร่วม

รองรัฐมนตรีต่างประเทศของจีนยังได้กล่าวประณามบางคนบางฝ่ายในสหรัฐฯ ที่มีทัศนะว่าจีนเป็นภัยคุกคาม โดยเขาเชื่อว่านี่ไม่ใช่เป็นทัศนะกระแสหลักของสหรัฐฯ พร้อมกับย้ำว่าทั้งสองประเทศได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสามารถที่จะร่วมมือกันได้เป็นอย่างดีในประเด็นปัญหาที่เป็นความสนใจระดับโลกร่วมกันหลายๆ ประเด็น เป็นต้นว่า เกาหลีเหนือ และซีเรีย

“การพัฒนาของจีนจะไม่เป็นการคุกคามประเทศใดๆ” เจิ้งบอก “ผมหวังว่าบุคคลบางคนในสหรัฐฯจะแก้ไขความคิดผิดๆ ของพวกเขา และปฏิเสธไม่เอาแนวความคิดแบบยุคสงครามเย็น”

อนึ่ง เมื่อวันจันทร์ (30 พ.ค.) หวา ชุนอิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนได้แถลงวิพากษ์วิจารณ์รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ จอห์น คาร์เตอร์ ว่าเป็นผู้มีความคิดจิตใจแบบยุคสงครามเย็น หลังจากที่ในวันศุกร์ที่แล้ว (27 พ.ค.) คาร์เตอร์ออกมากล่าวหาว่าจีนกำลังสร้าง “กำแพงเมืองจีนแห่งการโดดเดี่ยวตัวเอง” จากพฤติการณ์ต่างๆ ของปักกิ่งในทะเลจีนใต้


กำลังโหลดความคิดเห็น