เอเอฟพี - กองกำลังอิรักเปิดฉากโจมตีเมืองฟัลลูจาห์จากสามทิศทาง เมื่อวันจันทร์ (30) ซึ่งถือเป็นขั้นตอนใหม่ที่เต็มไปด้วยอันตราย หลังจากเริ่มต้นปฏิบัติการแผนการชิงคืนเมืองนี้จากไอเอสเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
พล.ท.อับเดลวาฮับ อัล-ซาได ผู้บัญชาการปฏิบัติการนี้ เปิดเผยว่า กองกำลังต่อต้านการก่อการร้าย (ซีทีเอส) ซึ่งถือเป็นกองกำลังที่ได้รับการฝึกฝนอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด และเชี่ยวชาญการรบมากที่สุดของอิรัก เป็นผู้นำการบุกเมืองฟัลลูจาห์จากสามทิศทาง ซึ่งเริ่มต้นเมื่อเวลา 4.00 น. ของวันจันทร์ โดยมีการสนับสนุนทางอากาศจากกองกำลังพันธมิตรนานาชาติ รวมทั้งกองทัพอากาศ และกองบินทหารบกของอิรัก ตลอดจนถึงการสนับสนุนจากหน่วยปืนใหญ่และรถถัง กับตำรวจจากจังหวัดอันบาร์
อัล-ซาได บอกด้วยว่า ซีทีเอสเจอการต่อต้านจากกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ที่ยึดเมืองฟัลลูจาห์เป็นที่มั่น
การมีส่วนร่วมของซีทีเอสครั้งนี้ ถือเป็นการเริ่มต้นขั้นตอนการต่อสู้ในเมืองฟัลลูจาห์ ซึ่งเมื่อปี 2004 กองกำลังอเมริกันเคยเผชิญการรบที่หนักหน่วงที่สุดที่นั่น หลังจากสงครามเวียดนาม
ปฏิบัติการนี้ที่เริ่มต้นมาได้หนึ่งสัปดาห์แล้ว มุ่งเน้นการชิงคืนหมู่บ้าน และพื้นที่ห่างไกลรอบเมืองฟัลลูจาห์ ที่อยู่ห่างจากกรุงแบกแดดทางตะวันตกเพียง 50 กิโลเมตร
มีชาวบ้านเพียงไม่กี่ร้อยครอบครัวที่สามารถหนีออกจากฟัลลูจาห์ได้ก่อนเริ่มต้นปฏิบัติการนี้ โดยคาดว่ายังมีพลเรือนติดค้างอยู่มากถึง 50,000 คนโดยประมาณ ก่อให้เกิดความกังวลว่าพวกญิฮัดจะใช้ประชาชนเหล่านั้นเป็นโล่มนุษย์
นาสร์ มูฟลาฮี ผู้อำนวยการสภาผู้ลี้ภัยนอร์เวย์ ซึ่งเป็นชาวอิรัก เปิดเผยว่า กลุ่มชาวเมืองที่หนีออกมาจำนวนมาก ไปถึงแคมป์เมื่อคืนวันเสาร์ (28) ขณะนี้ทรัพยากรในแคมป์เริ่มตึงตัวอย่างมาก คงไม่มีน้ำดื่มเพียงพอสำหรับผู้ลี้ภัยทุกคน หากยังมีชาวเมืองฟัลลูจาห์หนีออกมาอีกเมื่อสถานการณ์สู้รบดุเดือดมากขึ้น
อัมริยาต อัล-ฟอลลูจาห์ ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ในความควบคุมของรัฐบาลอิรักทางใต้ของที่มั่นของไอเอส มีชาวบ้านจำนวนมากขาดแคลนอาหารและเหนื่อยล้า หลังจากเดินเท้ามาตลอดทั้งคืน และต้องพยายามหลบเลี่ยงการตรวจตราของไอเอส
ฟัลลูจาห์เป็นหนึ่งในสองเมืองใหญ่ของอิรัก ที่ยังถูกไอเอสยึดครอง อีกเมืองคือโมซุล เมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ ซึ่งถูกกลุ่มก่อการร้ายกลุ่มนี้สถาปนาเป็นเมืองหลวงของตัวเองในอิรัก โดยเมื่อวันอาทิตย์ (29) กองกำลังที่นำโดยชาวเคิร์ดได้เริ่มการโจมตีที่มั่นไอเอสในโมซุล
ทั้งนี้ เชื่อว่า มีนักรบไอเอสในฟัลลูจาห์ราว 1,000 คน แต่ยังไม่ชัดเจนว่า กลุ่มไอเอสจะใช้ทรัพยากรใดในการปกป้องที่มั่นในเมืองนี้
เป็นที่คาดว่า ฟัลลูจาห์จะเป็นหนึ่งในสนามรบหฤโหดที่สุดสำหรับกองกำลังอิรัก อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนไอเอสเริ่มอ่อนกำลังลงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ทั้งยังสูญเสียพื้นที่ครอบครองจำนวนมาก
จากข้อมูลของทางการอิรัก ช่วงสองปีมานี้ไอเอสสร้างความเสียหายรุนแรงในพื้นที่กว้างขวางทั่วอิรักและซีเรีย แต่ปัจจุบันกลุ่มก่อการร้ายนี้ครองพื้นที่ราว 14% ในอิรัก ลดจาก 40% ในปี 2014
ถึงแม้รัฐอิสลามที่ถูกสถาปนาขึ้นเมื่อสองปีที่แล้วเริ่มล่ม แต่กลุ่มไอเอสกำลังพลิกกลยุทธ์กลับไปใช้แผนร้ายเดิม ๆ คือ การโจมตีประชาชนและหน่วยคอมมานโดที่บุกรุกด้วยระเบิด