xs
xsm
sm
md
lg

โลกอึ้ง! กองกำลังนิวเคลียร์สหรัฐฯ ยังใช้แผ่น “ฟลอปปีดิสก์ 8 นิ้ว” ส่งต่อข้อมูล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

แผ่นฟล็อปปีดิสก์ขนาด 8 นิ้ว,  5¼ นิ้ว และ 3½ นิ้ว (ภาพ - วิกิพีเดีย)
เอเอฟพี - องค์กรตรวจสอบเผย กองกำลังนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ ยังคงใช้แผ่น “ฟลอปปีดิสก์” ซึ่งเป็นอุปกรณ์เก็บข้อมูลที่ถูกพัฒนาขึ้นเมื่อช่วงทศวรรษ 1970 ในการติดต่อประสานงานบางอย่าง

สำนักตรวจสอบการทำงานของรัฐแห่งสหรัฐอเมริกา (Government Accountability Office - GAO) ได้ตีแผ่ข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีล้าสมัยที่เป็น “มรดกตกทอด” และยังคงถูกใช้งานในหน่วยงานของสหรัฐฯ มาจนทุกวันนี้ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการปรับปรุงโดยด่วน

ระบบบัญชาการและควบคุมของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ “ซึ่งทำหน้าที่ประสานปฏิบัติการต่างๆ ของกองกำลังนิวเคลียร์ ไม่ว่าจะเป็นขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป เครื่องบินทิ้งระเบิด และอากาศยานสำหรับเติมน้ำมันกลางอากาศ” ยังคงใช้คอมพิวเตอร์ IBM Series/1 และแผ่นฟลอปปีดิสก์ขนาด 8 นิ้วอยู่

คอมพิวเตอร์รุ่นนี้เริ่มถูกนำมาใช้งานในปี 1976 สมัยที่ เจอรัลด์ ฟอร์ด ยังเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ

“ระบบนี้ยังคงถูกใช้เรื่อยมา ด้วยเหตุผลง่ายๆ ก็คือ มันยังใช้การได้อยู่” น.ท.หญิง วาเลอรี เฮนเดอร์สัน โฆษกเพนตากอน ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี

“อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ทุกฝ่ายคลายกังวลเรื่องความล้าสมัย เราจะเลิกใช้ฟลอปปีไดรฟ์ และนำระบบเอสดีการ์ดมาทดแทนภายในสิ้นปี 2017”

“การปรับปรุงและพัฒนาหน่วยบัญชาการ ควบคุม และสื่อสารนิวเคลียร์ (NC3) ทั้งระบบ ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง”

รายงานที่ GAO เผยแพร่วานนี้ (25 พ.ค.) ระบุว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ มีแผนที่จะปลดระวางฟลอปปีไดรฟ์ทั้งหมดภายในสิ้นปี 2020

GAO ชี้ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ใช้จ่ายงบประมาณมหาศาลไปกับการอุดหนุน “ปฏิบัติการและการซ่อมบำรุง” ระบบคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ มากกว่าการ “พัฒนาและปรับปรุงให้ทันสมัย” ยกตัวอย่างเช่น เมื่อปีที่แล้วรัฐบาลให้งบอุดหนุนปฏิบัติการและการซ่อมบำรุงสูงถึง 61,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเจียดวงเงินเพียง 19,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับงานด้านอื่นๆ

GAO ยังพบด้วยว่า กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ยังคงใช้ “ภาษาแอสเซมบลี” (assembly language code) ซึ่งเป็นภาษาสำหรับเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ยุคแรกๆ ที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อทศวรรษ 1950

สำนักบริหารงบประมาณสหรัฐฯ (Office of Management and Budget) ได้ริเริ่มโครงการปรับปรุงระบบไอทีใหม่แล้ว “แต่จนกว่าโครงการนี้จะสำเร็จลุล่วง รัฐบาลก็ยังต้องเสี่ยงกับการบำรุงรักษาระบบเก่าที่ถูกใช้งานมานานเกินกว่าประสิทธิภาพที่แท้จริงของมัน” รายงานระบุ


กำลังโหลดความคิดเห็น