เอเจนซีส์ - เจ้าหน้าที่สอบสวนฝรั่งเศสยืนยันตรวจพบควันในหลายจุดบนเครื่องอียิปต์แอร์ เที่ยวบิน MS804 ก่อนเครื่องโหม่งทะเล แต่ยังไม่สามารถฟันธงได้ว่า ไฟไหม้จากระบบไฟฟ้าขัดข้อง หรือ จากระเบิด และยังไม่ได้ทิ้งทฤษฎีใด ๆ ซึ่งรวมถึงการก่อการร้าย ถึงกระนั้นก็เป็นที่น่าสังเกตว่า ยังไม่มีกลุ่มก่อการร้ายใดออกมาอ้างเป็นผู้ก่อเหตุโศกนาฏกรรมครั้งนี้
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (21) โฆษกสำนักงานสอบสวนและวิเคราะห์ของฝรั่งเศส เปิดเผยกับสำนักข่าวเอพี ว่า ข้อมูลที่ได้รับจากระบบสื่อสารและรายงานตำแหน่งของอากาศยาน ซึ่งจะส่งข้อมูลสภาวะของเครื่องบินไปยังสายการบิน ได้ระบุว่า มีการตรวจพบควันในห้องโดยสาร ก่อนที่การส่งข้อมูลจะขัดข้อง พร้อมกล่าวเสริมว่า ยังเร็วเกินไปที่จะตีความและทำความเข้าใจสาเหตุการตก ตราบที่ยังไม่พบซากเครื่องบิน หรืออุปกรณ์บันทึกการบิน
ทั้งนี้ สัญญาณเตือนควันดังขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 2.26 น. วันพฤหัสบดี (19) ตามเวลาท้องถิ่นของอียิปต์ ก่อนที่ผู้ควบคุมการจราจรทางอากาศจะขาดการติดต่อกับเที่ยวบิน MS804 ที่ตกลงในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทำให้ผู้ที่อยู่บนเครื่องบินทั้งหมด 66 คนที่บินจากปารีสมุ่งหน้าสู่ไคโร เสียชีวิต
รายงานระบุว่า เครื่องบินบินผ่านน่านฟ้ากรีซ โดยไม่มีสิ่งผิดสังเกต ก่อนที่จะเลี้ยวกะทันหันและตกลงในทะเล ซึ่งแม้หนึ่งในสาเหตุที่เป็นไปได้ คือ มีการซุกซ่อนระเบิดบนเครื่อง ทว่า จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีกลุ่มก่อการร้ายใดออกมาอ้างว่าเป็นผู้ลงมือ
หลังพบกับญาติผู้โดยสารและลูกเรือบนเครื่อง ฌอง-มาร์ก เอโร รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส พร้อมกับเอกอัครราชทูตอียิปต์ประจำปารีส แถลงว่า ยังไม่ได้ทิ้งทฤษฎีใด ๆ สำหรับสาเหตุการตกของเครื่องบินลำนี้
เอโร ย้ำว่า ฝรั่งเศสต้องการบอกเล่าความจริงทั้งหมดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การค้นหาเครื่องบินและอุปกรณ์บันทึกข้อมูลการบินนั้น สำคัญเป็นอันดับแรก
เดวิด แลร์เมาต์ บรรณาธิการที่ปรึกษาของไฟลต์โกลบัล ชี้ว่า ข้อมูลที่ปรากฏขึ้นเมื่อเริ่มต้นเหตุการณ์อาจเป็นคำตอบของสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ยอมรับว่า ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า ไฟที่ลุกไหม้เกิดจากผู้ก่อการร้าย หรือ ระบบไฟฟ้าขัดข้อง
แลร์เมาต์ ระบุว่า มีควันในห้องน้ำและอีกนาทีต่อมาระบบตรวจพบควันในห้องติดตั้งระบบอิเล็กทรอนิกส์ สองนาทีให้หลัง ระบบคอมพิวเตอร์ควบคุมการบินสองเครื่องหยุดทำงานทีละเครื่อง คำถามก็คือ สาเหตุของไฟไหม้ คือ ไฟฟ้าลัดวงจร หรือจากระเบิดหรืออุปกรณ์วางเพลิง
เชเกอร์ เคลาดา อดีตหัวหน้าเจ้าหน้าที่สอบสวนกรณีเครื่องบินตกของอียิปต์ ตั้งข้อสังเกตว่า ไม่ควรทุ่มความสนใจกับข้อมูลนี้เพียงอย่างเดียว พร้อมระบุไม่มีสัญญาณเตือนควันไฟในห้องนักบิน
ด้านหัวหน้าเจ้าหน้าที่สอบสวนของกรีซ เอทานาเซียส บินิว กล่าวเมื่อวันเสาร์ (21) ว่า การค้นหาจำกัดวงแคบลงในพื้นที่ 1,448 ตารางกิโลเมตร ห่างจากเมืองอเล็กซานเดรียไปทางเหนือราว 290 กิโลเมตร ซึ่งทะเลบริเวณดังกล่าวลึก 2,286 - 3,048 เมตร โดยเป้าหมายคือ การค้นหากล่องดำและซากเครื่องบินให้ได้มากที่สุด
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สอบสวนยังไม่รู้ชัดเจนว่า ขณะที่เครื่องบินดิ่งลงกะทันหันจากระดับความสูง 11,277 เมตร ลงสู่ระดับ 4,572 เมตรนั้น นักบินควบคุมเครื่องอยู่หรือไม่ โดยดูเหมือนว่าเกิดข้อบกพร่องทางเทคนิคหลายอย่างก่อนที่เครื่องจะสูญเสียการควบคุม
ขณะที่การค้นหาเครื่องบินลำนี้ยังคงดำเนินต่อไป กองทัพอียิปต์ได้โพสต์ภาพบนเฟซบุ๊ก แสดงซากชิ้นส่วนที่พบ ซึ่งมีทั้งเสื้อชูชีพ ชิ้นส่วนที่นั่ง ฯลฯ
ทั้งนี้ ผู้โดยสารบนเครื่องบินลำนี้ ประกอบด้วย ชาวอียิปต์ 30 คน, ฝรั่งเศส 15 คน, อิรัก 2 คน, แคนาดา 2 คน นอกจากนั้น ยังมีชาวแอลจีเรีย เบลเยียม อังกฤษ ชาด โปรตุเกส ซาอุดีอาระเบีย และ ซูดาน ในจำนวนนี้มีเด็กชาย 1 คน และทารก 2 คน ส่วนลูกเรือมี 7 คน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอีก 3 คน