เอเอฟพี - พนักงานสอบสวนเบลเยียมพบ “ข้อความสุดท้าย” ที่ โมฮาเหม็ด อาบรินี หนึ่งในคนร้ายที่พัวพันเหตุโจมตีกรุงปารีสและเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่สนามบินบรัสเซลส์ได้เขียนทิ้งเอาไว้ โดยเนื้อหาระบุว่าเขาต้องการสละชีพเพื่อศาสนา
ตำรวจไปเจอเอกสารฉบับนี้บันทึกอยู่ในคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปที่ถูกพบเมื่อวันที่ 22 มี.ค. วันเดียวกับที่มือระเบิดฆ่าตัวตายจากกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ได้ลงมือโจมตีสนามบินซาเวนเท็ม และสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินมาลบีคในกรุงบรัสเซลส์ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตไป 32 ราย
เมื่อวานนี้ (18 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีได้เข้าถึงรายงานของตำรวจรัฐบาลกลางเบลเยียมในเดือน เม.ย. ซึ่งระบุว่า แล็ปท็อปเครื่องนี้ถูกพบอยู่ภายในสถานที่ซ่อนตัวแห่งหนึ่งของพวกนักรบญิฮัด
พนักงานสอบสวนพบเอกสารไมโครซอฟท์เวิร์ดลงวันที่ 2 ก.พ. 2016 หรือประมาณ 1 เดือนก่อนที่กลุ่มคนร้ายจะลงมือโจมตี และเชื่อว่าน่าจะเป็นจดหมายที่ อาบรินี เขียนถึงมารดาของเขา
ตำรวจชี้ว่า จดหมายดังกล่าวซึ่งถูกเขียนด้วยตัวพิมพ์ใหญ่และสะกดคำผิดหลายแห่ง อาจถือว่าเป็น “ข้อความสุดท้าย” ที่ อาบรินี ตั้งใจทิ้งไว้ก่อนตาย
ผู้เขียนจดหมายซึ่งเรียกตนเองว่า “อบูยะห์ยา” ระบุว่า ตนได้เดินทางไปซีเรีย และ “รู้สึกสนใจในศาสนาอย่างมาก” หลังจากน้องชายได้ไปเสียชีวิตที่นั่น
“เมื่อได้ศึกษาไปสักพักหนึ่ง เขาก็รู้สึกว่าการกระทำของกลุ่มไอเอสเป็นสิ่งที่ชอบธรรมในสายตาของเขา” รายงานของตำรวจระบุ
อาบรินี ถูกตำรวจเบลเยียมรวบตัวได้เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ในฐานะผู้ต้องสงสัยคนสำคัญที่พัวพันเหตุโจมตีกรุงปารีสเมื่อเดือน พ.ย.ปีที่แล้ว ซึ่งคร่าชีวิตคนไปถึง 130 ศพ และต่อมายังพบว่าเขาก็คือ “ชายสวมหมวก” ที่กล้องวงจรปิดของสนามบินบรัสเซลส์สามารถจับภาพไว้ได้พร้อมกับมือระเบิดอีก 2 คน ก่อนที่พวกเขาจะเริ่มลงมือ
พนักงานสอบสวนได้เขียนรายงานสรุปว่า อาบรินีมองว่าการก่อวินาศกรรมปารีสเป็น “ของขวัญจากชาวมุสลิมให้แก่ฝรั่งเศส หลังจากรัฐบาลเมืองน้ำหอมได้เข้าร่วมกับกลุ่มพันธมิตรของสหรัฐฯ เพื่อกวาดล้างไอเอส”
อาบรินียังเอ่ยถึง “วีรบุรุษทั้งหลาย... ที่กดระเบิดเพื่อสร้างความหวาดกลัว” แก่พวกไม่ศรัทธา
“ถ้อยคำที่ใช้และเนื้อหาของจดหมาย บ่งบอกชัดเจนว่าผู้เขียนต้องการสละชีพเพื่อศาสนาของเขา (martyr)” พนักงานสอบสวนระบุ
อาบรินี วัย 31 ปี เป็นพลเมืองเบลเยียมเชื้อสายโมร็อกโก และถูกตำรวจจับกุมได้เมื่อวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา