รอยเตอร์ - นายซาลาห์ อับเดสลาม ผู้ต้องสงสัยคนสำคัญของเหตุอิสลามิสต์ก่อวินาศกรรมปารีสเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อน เป็นไปได้ว่าอาจหลบหลีกปฏิบัติการจู่โจมของตำรวจในกรุงบรัสเซลส์วันอังคาร(15มี.ค.) อย่างหวุดหวิด ตามสถานีโทรทัศน์แห่งรัฐของเบลเยียมรายงานวันศุกร์(18มี.ค.) หลังทีมสืบสวนพบลายนิ้วมือของเขาในที่เกิดเหตุ
"จากข้อมูลของเรา มันเป็นไปได้อย่างมากว่าเขาเป็นหนึ่งใน 2 คนที่หลบหนีระหว่างการยิงปะทะ" สถานีโทรทัศน์ RTBF รายงานบนเว็บไซต์ อ้างถึงปฏิบัติการจู่โจมของตำรวจเมื่อวันอังคาร(15มี.ค.)
สำนักงานอัยการ ซึงกำลังดำเนินการสืบสวนอย่างกว้างขวางอันเกี่ยวโยงกับพลเมืองชาวเบลเยียมและชาวฝรั่งเศสที่พำนักอยู่ในบรัสเซลส์ ที่อาจพัวพันกับเหตุพวกรัฐอิสลาม(ไอเอส) โจมตีกรุงปารีสเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อรายงานข่าวนี้อย่างเป็นทางการ
อย่างไรก็ตามสำนักข่าวเบลกาของเบลเยียมอ้างคำสัมภาษณ์ของทางสำนักงานอัยการระบุว่าพวกเขาพบลายนิ้วมือของนายอับเดสลาม ในอพาร์ทเมนต์ที่ตำรวจบุกจู่โจมในเขตฟอเรสต์ ซึ่งเป็นแถบชานเมืองของกรุงบรัสเซลส์เมื่อวันอังคาร(15มี.ค.) ขณะที่สื่ออื่นๆระบุว่ามีการพบดีเอ็นเอเช่นกัน
กระนั้นก็ตามสื่ออื่นๆรายงานอย่างระมัดระวังเกี่ยวกับความหมายโดยนัยของการค้นพบครั้งนี้ ด้วยระบุว่ามันอาจแค่แสดงว่าชายชาวฝรั่งเศสที่เกิดในบรัสเซลส์วัย 26 ปีรายนี้ เคยไปยังอพาร์ทเมนต์ดังกล่าว ณ ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งเท่านั้น
พี่ชายของนายอับเดสลามเป็นหนึ่งในมือระเบิดฆ่าตัวตายที่จุดชนวนระเบิดในกรุงปารีส ระหว่างปฏิบัติการก่อวินาศกรรมที่คร่าชีวิตผู้คน 130 ศพ ขณะที่นายอับเดสลาม ขับรถจากเมืองหลวงของฝรั่งเศสกลับไปยังบรัสเซลส์ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ทั้งนี้นับตั้งแต่นั้นเจ้าหน้าที่เบลเยียมได้ควบคุมผู้ต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับเขาราว 10 คน แต่ยังไม่เคยมีรายงานการพบเห็นตัวเขามาก่อน
ในปฏิบัติการจู่โจมของตำรวจเมื่อวันอังคาร(15มี.ค.) พลซุ่มยิงของเจ้าหน้าที่ได้สังหารมือปืนอิสลามิสต์ไปหนึ่งราย และทางสถานีโทรทัศน์ RTBF รายงานในวันศุกร์(18มี.ค.) ว่ามือปืนที่ถูกวิสามัญรายดังกล่าวอยู่ในรายชื่อบุคคลที่เป็นต้องการตัวจากเหตุโจมตีกรุงปารีสด้วยเช่นกัน
RTBF รายงานว่ามือปืนชาวแอลจีเรียที่ทางตำรวจระบุว่าชื่อนายโมฮาเหม็ด เบลคาอิด เคยใช้ชื่อปลอม ซามาร์ บูซิด ในแผนโจมตีกรุงปารีส "บูซิด อยู่ในบัญชีต้องการตัวของฝรั่งเศสและเบลเยียมมาตั้งแต่เดือนธันวาคม หลังพบหลักฐานว่าเขาโอนเงินสดจากบรัสเซลส์ไปให้กับผู้หญิงคนหนึ่งที่ถูกวิสามัญพร้อมกับผู้ต้องสงสัยคนอื่นๆในกรุงปารีส 5 วันหลังจากเกิดเหตุโจมตี"