เอเอฟพี - ราคาน้ำมันในวันพุธ (18 พ.ค.) ขยับลงเล็กน้อย หลังรายงานที่แข็งกร้าวของการประชุมเฟดช่วยดันดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ปัจจัยนี้ส่งผลให้วอลล์สตรีทปิดในกรอบแคบๆ และทองคำปรับลด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายนลดลง 12 เซ็นต์ ปิดที่ 48.19 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคมลดลง 35 เซ็นต์ ปิดที่ 48.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดน้ำมันเคลื่อนไหวในแดนบวกเกือบตลอดทั้งวัน สืบเนื่องจากความยุ่งเหยิงด้านกำลังผลิตจากปัญหาไฟป่าในแคนาดา ที่สถานการณ์ในช่วง 48 ชั่วโมงหลังสุดกลับเลวร้ายลงอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันแกว่งตัวสู่แดนลบ หลังจากรายงานการประชุม (minutes) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประจำเดือนเมษายน เผยให้เห็นว่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายเปิดประตูสำหรับการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน
รายงานดังกล่าวส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ซึ่งก่อแรงกดดันทางลบต่อสินค้าโภคภัณฑ์ และปัจจัยนี้เองที่ฉุดให้ทองคำในวันพุธ (18 พ.ค.) ปิดลบเช่นกัน โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ลดลง 2.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,274.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพุธ (18 พ.ค.) ปิดทรงตัว แต่ภาคธนาคารจะได้แรงหนุนจากรายงานการประชุมเฟด ที่เพิ่มความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน
ดาวโจนส์ลดลง 3.36 จุด (0.02 เปอร์เซ็นต์) ปิด 17,526.62 จุด เอสแอนด์พีเพิ่มขึ้น 0.42 จุด (0.02 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,047.63 จุด แนสแดคเพิ่มขึ้น 23.39 จุด (0.50 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,739.12 จุด
รายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด ประจำเดือนเมษายน เผยให้เห็นว่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายเปิดประตูสำหรับการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน โดยชี้ไปที่เศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้นของสหรัฐฯ ในไตรมาส 2 อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เฟดได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับประชามติ Brexit (อังกฤษออกจากการเป็นสมาชิกอียู) ซึ่งจะจัดขึ้น 1 สัปดาห์หลังการประชุมเฟด ประจำเดือนมิถุนายน
รายงาน minutes เป็นตัวขับเคลื่อนหุ้นกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ ซึ่งจะได้กำไรมากขึ้นจากการขึ้นดอกเบี้ย ไม่ว่าจะเป็น เจพีมอร์แกน เชส ที่ปิดบวก 3.9 เปอร์เซ็นต์ ส่วนซิตี้กรุ๊ป และแบงก์ออฟอเมริกา ขยับขึ้นเกือบ 5 เปอรเซ็นต์